21 มีนาคม 2560

ทำไม?..ต้องเป็นโรค“กลัวอิสลาม”

"Ibrahim"


ยุทธการติ่งโจรใต้ต่างโพสต์ต่างแชร์วาทกรรม ปาตานีกันอย่างสนุกสนานสร้างการรับรู้กัน    เป็นวงกว้างเพื่อหวังผลสร้างความรู้สึกร่วม ความมีตัวตน แต่ในทางกลับกันเมื่อมีผู้ต่อต้านคำว่า ปาตานีออกไป กลับโจมตีว่าการกระทำดังกล่าวเป็นอาการของคนที่เป็นโรค กลัวอิสลามกลัวอิสลามจะครองประเทศ หรือแม้กระทั่งกลัวอิสลามจะครองโลก

โรคกลัวอิสลาม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มุสลิม คือประชากรส่วนใหญ่ ขณะเดียวกันผู้คนดั่งเดิมในพื้นที่ยังมีคนไทยพุทธ คนไทยเชื้อสายจีนอยู่อาศัยร่วมกับพี่น้องมุสลิมมาช้านาน

ชาวไทยพุทธในพื้นที่ได้มีการจัดตั้ง ชนพุทธกลุ่มน้อยใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งล่าสุดได้ออกมาเคลื่อนไหวว่า ไม่ได้กลัวแต่แค่ #รังเกลียด!!! (ไม่ใช่แค่รังเกียจ) #รังเกลียดความเห็นแก่ตัวของกลุ่มโจรใต้ #รังเกลียดการเนรคุณแผ่นดินที่โจรใต้กระทำ #รังเกลียดความยึดติดล้าหลังทางความคิด

พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมของกลุ่มโจรใต้ พยายามบิดเบือนและแทรกสร้างความรู้สึกร่วมลงไปในประวัติศาสตร์ ในวิถีชีวิตของกลุ่มคน ไปจนถึงภาคกิจกรรมต่างๆ ในสังคม 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อปลุกกระแสชาติพันธุ์นิยมเดี่ยว เพียงหวังหาผลประโยชน์เข้าสู่กลุ่มของตัวเอง ถือเป็นความเห็นแก่ตัว ที่ไม่ให้เกียรติชาติพันธุ์อื่นๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

จุดมุ่งหมายสูงสุดของศาสนาทุกศาสนา คือมุ่งสอนให้คนกระทำแต่ความดี ละเว้นความชั่วทั้งปวง นำหลักคำสอนศาสนามาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน สามารถครองตนอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคมที่มีความหลากหลาย

สำหรับประชากรทั่วโลกมีผู้นับถือศาสนาอิสลามเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองคริสต์ศาสนาซึ่งมี ศาสนิกชนสองพันกว่าล้านคน แต่จากการเก็บสถิติข้อมูลโดย พิว” (The Pew Forum on Religion & Public Life) พบว่าแนวโน้มผู้นับถือศาสนาอิสลามเพิ่มขึ้นในอนาคต
จะเห็นได้ว่าการเพิ่มจำนวนผู้นับถือศาสนาอิสลามเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้เกิดความหวาดกลัว มุสลิมครองโลก ซึ่งสาเหตุความหวาดกลัวดังกล่าวอาจจะมาจากการกระทำของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงโดยเฉพาะกลุ่มไอซิส (ISIS) หรือ กลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย (Islamic State of Iraq and Syria) จนถูกขนานนามว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่เหี้ยมโหดที่สุด

ในความเป็นจริงแล้วประเทศมุสลิมที่มีแนวทางสันติก็มีออกเยอะ เป็นศาสนิกชนที่ดีปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนาอย่างเคร่งครัด แต่ประเทศมุสลิม หรือกลุ่มมุสลิมที่สร้างปัญหาให้กับชาวโลก มีการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาเพื่อต้องการเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่งนั้นเป็นแค่ส่วนน้อย..

กระแสความหวาดกลัวอิสลามไม่เว้นแม้กระทั่งในประเทศไทยเรา จากการก่อเหตุของกลุ่มผู้คิดต่างในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สิบกว่าปีที่ผ่านมา ภาพความรุนแรงที่มีการส่งผ่านตามช่องทางสื่อซึ่งกลายเป็น แนวร่วมมุมกลับส่งผลต่อจิตวิทยาสังคมเกิดกระแส ความกลัวมุสลิมนำไปสู่การต่อต้านการสร้างมัสยิดในหลายพื้นที่ของประเทศ เช่น เมื่อ 1 มีนาคม 2558 มีการประท้วงการก่อสร้างมัสยิดที่จังหวัดน่าน และชาวบึงกาฬไม่เอามัสยิด

ความเป็นจริงความหวาดกลัวอิสลาม(Islamophobia)ในประเทศไทยมิใช่พึ่งเกิด หากเราติดตามข่าวจะพบว่าปรากฏการณ์นี้เป็นผลจากเหตุการณ์ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจก็จะแสดงถึงความหมางเมินเหินห่าง เป็นร่องรอยของความไม่ผสมกลมเกลียวระหว่างคนแต่ละฝ่ายในสังคม เกิดความแตกแยก บั่นทอนความสมานฉันท์นำไปสู่ความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ
ศาสนิกชนต้องกล้าก้าวให้พ้นจากการเป็นพวกเขาพวกเราหรือขยายความเป็นพวกเราให้กว้างคือต้องคิดว่าทุกศาสนาเป็นเพื่อนกัน ต้องเป็นกัลยาณมิตร

การที่มีมัสยิดเพิ่มขึ้นในแต่ละภูมิภาคของประเทศเราอย่าไปกลัว แต่เข้าใจดีว่า ความกลัวมุสลิม ที่เกิดขึ้น กลัวว่าเมื่อมีมัสยิดจะสร้างปัญหา นำพาความเดือดร้อนมาสู่ชุมชน กลัวการก่อเหตุร้ายดั่งเช่นในพื้นที่ จชต. ความหวาดกลัวศาสนา ครั้งหนึ่งเราเคยกลัว ศาสนาคริสต์ที่มีการเผยแพร่ศาสนาในบ้านเรา รวมการติดป้ายตามสถานที่ต่างๆ แต่เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งการเพิ่มจำนวนของผู้นับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งไม่ได้อยู่ที่ตัวศาสนาเลย แต่อยู่ที่ผู้นับถือมากกว่าเพราะศาสนาทุกศาสนาย่อมสอนให้คนเป็นคนดีด้วยกันทั้งนั้น ที่สำคัญคนไทยคือคนไทยด้วยกันไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหน!!

-------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น