9 มีนาคม 2560

ผลตรวจปลอกกระสุนเหตุยิงไทยพุทธรือเสาะ 4 ศพ ชี้ชัดเป็นฝีมือ ผกร.กลุ่มมาราปาตานีจะว่าอย่างไร?


ผลพิสูจน์ปลอกกระสุนเหตุยิงไทยพุทธรือเสาะ เชื่อมโยงคดีสำคัญ 23 คดี เสียชีวิต 13 ราย ตบหน้า MARA PATANI ที่ออกมาประกาศก่อนหน้านี้ไม่ใช่การกระทำของ ผกร.

ผลพิสูจน์หลักฐาน จาก ศพฐ.10 กรณีคดีคนร้ายยิงครอบครัว นายสมชาย ทองจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเสียชีวิต 4 ราย ที่ รือเสาะ จ.นราธิวาส พบคนร้ายเคยใช้อาวุธปืนทำการก่อเหตุมาแล้วอย่างโชกโชน เชื่อมโยงคดีสำคัญหลายคดี ชี้ชัดเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ขัดแย้งกับแถลงการณ์ของกลุ่มมาราปาตานีที่ออกมาปัดความรับผิดบชอบก่อนหน้านี้ 

กรณีเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 60 เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนยิง นายสมชาย ทองจันทร์ อายุ 57 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.6 บ.ธรรมเจริญ ต.โตกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ขณะขับรถยนต์เพื่อเดินทางมาประชุมประจำเดือนที่ อ.รือเสาะ พร้อมกับขับรถยนต์ไปส่งนักเรียนที่โรงเรียนอำเภอรือเสาะ โดยมี ภรรยา บุตร และญาติ อาศัยนั่งรถมาด้วยกัน รวม 6 คน 

เมื่อนายสมชายฯ เดินทางมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นเนินเขาและป่ารกทึบสองข้างทาง ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่รถยนต์จำนวนหลายนัด เป็นเหตุให้นายสมชาย ทองจันทร์ และนางสน ทองจันทร์ ถูกกระสุนปืนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีผู้บาดเจ็บอีก 4 คน ญาติได้นำส่ง รพ.รือเสาะ คือ น.ส.รสิกา คาด้วง, ด.ช.ธนกฤต ทองจันทร์ ซึ่งได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ รพ.รือเสาะ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม 4 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ ด.ญ.ศิรภัสสร ทองจันทร์ อายุ 12 ปี ถูกกระสุนปืนที่หัวเข่าซ้าย แพทย์ส่งไปรักษาต่อที่ร.พ.นราธิวาสราชนครินทร์ และ ด.ญ.ญานิศา ศรีสุวรรณ อายุ 6 ขวบ มีแผลถลอกที่ต้นขา คอ และแขน จากการที่รถเสียหลักตกถนน 


จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความหดหู่สะเทือนใจให้กับคนในพื้นที่และคนไทยทั้งประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากการก่อเหตุของคนร้ายมุ่งกระทำต่อเป้าหมายอ่อนแอไร้ทางต่อสู้ เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม กระทำได้แม้แต่เด็กและผู้หญิง 

ความคืบหน้าของคดีล่าสุด ผลการตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุนที่เก็บรวบรวมได้ในที่เกิดเหตุของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 (ศพฐ.10)  ซึ่งเป็นปลอกกระสุนปืนเล็กกล ขนาด .223 (5.56 มม.) จำนวน 32 ปลอก และปลอกกระสุนปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. LUGER  จำนวน 11 ปลอก

ปลอกกระสุนปืนเล็กกล ขนาด .223 (5.56 มม.) จำนวน 32 ปลอก เมื่อมีการตรวจพิสูจน์พบว่าคนร้ายใช้ยิงมาจากอาวุธปืน 2 ชนิด จำนวน 5 กระบอก คือ อาวุธปืน เอ็ม.16 จำนวน 3 กระบอก และ อาวุธปืน เอชเค.33 จำนวน 2 กระบอก

ในส่วนของอาวุธปืน เอ็ม.16 จำนวน 3 กระบอกที่คนร้ายใช้ก่อเหตุพบว่ามีความเชื่อมโยงคดีสำคัญถึง 18 คดีด้วยกัน เช่นคดีคนร้ายยิงเจ้าหน้าที่ทหาร ชป.ร้อย.ร.15221 ฉก.ยะลา 12 เสียชีวิต 4 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2558 ขณะเดินทางกลับจากร่วมงานแข่งขันกีฬาโรงเรียนตาดีกา อ.รามัน จว.ยะลา คดีคนร้ายยิงและเผา ส.อ.ประสิทธิ์ นัคราเรือง และ พลทหารยูโสบ เต๊ะหลี  เหตุเกิดเมื่อ 16 กรกฎาคม 2558 ในพื้นที่ ม. 4 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส  

นอกจากนี้คนร้ายยังเคยก่อเหตุยิง นายวิรัตน์ จิ้มเท่ง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ อส.อ.รามัน ได้รับบาดเจ็บ เหตุยิง ส.อ.มาหะหมัด ซีระ อายุ 28 ปี เสียชีวิต ในพื้นที่ ต.บาลอ อ.รามัน จ.ยะลา 

และล่าสุดเหตุยิงนายสมชาย ทองจันทร์, นางรัตติกา ทองจันทร์, นางสน ทองจันทร์ ด.ช.ธนกิจ ทองจันทร์ (เสียชีวิตทั้ง 4 คน) และ ด.ช.จีรภัทร์ ทองจันทร์(ได้รับบาดเจ็บ) ในพื้นที่ ม.6 บ.ธรรมเจริญ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส 

ที่น่าสังเกตคืออาวุธปืน เอ็ม.16 ทั้ง 3 กระบอก พบว่ามีการใช้ก่อเหตุในคดีเดียวกันหลายๆ คดี คาดว่ากลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ได้ลงมือก่อเหตุเป็นกลุ่มเดียวกันที่เคลื่อนไหวในพื้นที่  

ส่วนอาวุธปืน เอชเค.33 คนร้ายเคยใช้ก่อเหตุมาแล้ว 3 คดีด้วยกัน ซึ่งเมื่อทำการตรวจปลอกกระสุนพบความเชื่อมโยงในสารบบพบว่าคนร้ายเคยใช้ยิงใส่ จนท.ตร.ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ของ ศชต. เหตุเกิดเมื่อ 22 ก.ย. 57 ขณะขับรถยนต์ไปตามถนนสายรามัน – โกบาตาบารู เพื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุกรณีระเบิด อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เหตุคนร้ายยิง อส.ทพ.รอพา มะ และ อส.ทพ.อิสมาแอ วายูโซ๊ะ เสียชีวิตทั้ง 2 นาย บริเวณตลาดนัดบ้านปาโล๊ะ ม.2 ต.บาโงย อ.รามัน จว.ยะลา 

ผลจากการตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุนของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 (ศพฐ. 10) จะเห็นได้ว่าอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ปฏิบัติการมีความเชื่อมโยงการก่อเหตุคดีสำคัญถึง 23 คดี มีผู้เสียชีวิต 13 ราย ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย อีกทั้งทำการปล้นอาวุธปืนของทางราชการไปจำนวนหนึ่ง พฤติกรรมการก่อเหตุดังกล่าวเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ที่ใช้อาวุธปืนประจำกายทำการก่อเหตุบ่งชี้ให้เห็นว่าเป็นกลุ่มเดียวกันที่ทำการอาละวาดสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมีความขัดแย้งกับถ้อยแถลงการณ์ของกลุ่มมาราปาตานีที่ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบก่อนหน้านี้ว่าไม่ใช่ฝีมือและการกระทำของกลุ่มขบวนการ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น