31 พฤษภาคม 2561

ทีมงูเต๊ะ ฆ่าชาวบ้านในเดือนรอมฎอน เดือนแห่งบุญ



เหตุร้ายรายวันในพื้นที่ จชต. ยังคงมีคนร้ายทำการก่อเหตุไม่หยุดหย่อนถึงแม้จะเป็นห้วงเดือนรอมฎอน เดือนแห่งการทำความดีเป็นเดือนแห่งบุญที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างเคร่งครัดในการปฏิบัติศานกิจทางศาสนา ขณะเดียวกันกลับมีผู้คิดต่างได้รับการปลูกฝังความคิดความเชื่อผิดๆ ทำการเข่นฆ่าคนในเดือนรอมฎอนจะได้บุญ ทั้งๆ ที่ทุกศาสนาต่างสอนขนศาสนิกว่าการฆ่ามนุษย์เพื่อร่วมโลกหรือแม้กระทั่งการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นบาป

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (30 พ.ค.) วันเดียวซัยตอนทำการฆ่าคนในเดือนแห่งบุญวันเวลาเดียวกันโจรใต้กราดยิงพี่น้องมุสลิม 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นใน 2 พื้นที่ จ.นราธิวาส คนร้ายใช้อาวุธปืน เอ็ม.16 ยิงอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเสียชีวิตที่สุไหงปาดี ส่วน จ.ปัตตานี คนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายมะแอ วาเต๊ะ อายุ 57 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี ขณะขับขี่รถ จยย.



มื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 30 พ.ค. 61 ร.ต.ท.ธีรพงษ์ พิมพา รองสารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนนจารุเสถียร สายสุไหงปาดี-เจาะไอร้อง ช่วงบริเวณ3แยกบ้านบือราแง ม.3 ต.โต๊ะเด็ง จึงพร้อมด้วยนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงปาดี พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.สภ.สุไหงปาดี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบศพนายอาเซ็ง มะดียา อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/1 ม.3 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบือราแง มีร่องรอยถูกกระสุนปืน เอ็ม.16 ที่บริเวณลำตัวและศรีษะ รวม3 นัด นอนจมกองเลือดอยู่บนถนน ข้างรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟสีขาว ทะเบียนประเทศมาเลเซีย PGW 4403 ที่ล้มตะแคงอยู่ และที่บริเวณริมถนนห่างจากศพผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 ตกอยู่จำนวน 7 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลสุไหงปาดี เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
และอีกกรณีเมื่อวันที่ 30 เวลา 22.00น. พ.ค. 61 สภ.มายอ รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายมะแอ วาเต๊ะ อายุ 57 ปี ที่อยู่ 157/1 ม.7 ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี โดนแขนได้รับบาดเจ็บขณะขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กฆ 2045 ยะลา เดินทางกลับบ้านพัก ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุเกิด หน้าโกดังข้าว บ.บูเกะกุง ม.7 ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านบูเกะกุง ถูกนำส่ง รพ.มายอ

สำหรับทั้งสองเหตุการณ์เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวน คาดเป็นผีมือของกลุ่มขบวนการที่มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่


ความสุดโต่งหัวรุนแรงของกลุ่มโจรใต้ที่คอยจับจ้องเวลาในการสร้างความสูญเสียความเดือดร้อนในการมอบความทุกข์ทรมานให้กับพี่น้องประชาชน ฆ่าได้แม้แต่มุสลิมด้วยกัน ยิงในเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนแห่งการทำบุญ ละเว้นการทำบาป แต่โจรกลับมาฆ่าชาวบ้าน สร้างบาปอย่างไม่เกรงกลัวต่อพระองค์อัลลอฮ อีกกี่ชีวิตที่ต้องจบลมหายใจลงดับเพราะฝีมือการกระทำของโจรใต้ 14 ปี ที่ผ่านมามันยังไม่สาสมใจพวกท่านหรือ?
ี่

30 พฤษภาคม 2561

จับ 6 โจรใต้มือระเบิดตู้เอทีเอ็มป่วนเดือนรอมฎอน



จากกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม ในพื้นที่ชายแดนใต้หลายจุดพร้อมๆกันใน จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมาทำให้ทางผบ.ฉก.ปัตตานี ได้สั่งการให้ติดตามกลุ่มที่ก่อเหตุดังกล่าว
โดยมีการติดตามจากกล้องวงจร
ปิดจากจุดต่างๆกว่า50จุดเพื่อไล่ติดตามกล้องจุดที่คนร้ายมาและกนีในเส้นทางต่างไปรากฎพบหลายพื้นที่จนสามารถจับภาพคนร้ายได้และมีการติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้าย นั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ (29 พ.ค.)พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก. ปัตตานี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม ในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แล้ว 6 ราย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2561 ที่ผ่านมา 9 ราย ขณะที่ยังหลบหนีอีก 3 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังติดตามไล่ล่าคนร้ายที่หลบหนีอย่างต่อเนื่อง

สำหรับรายชื่อบุคคลที่เจ้าหน้าที่ออกหมายจับ เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2561 ที่ประกอบด้วย 1.นายมูฮำหมัด แวอูเซ็ง 2.นายนุรดีน เจะอูเซ็3.นายอาแว หะยีเด็ง 4. นายอับดุลรอนิง เปาะลี5.นายอิสดิน สะอิ6.นายอิสมะแอ อาแซ7.นายอิลฮัม สุหลง 8.นายอีลียัส โต๊ะอีเล และ 9. นายซูไฮมี มะแซ

ซึ่งจากผลการปฏิบัติเชิงรุกต่อ เป้าหมายผู้ต้องสงสัยระเบิดตู้เอทีเอ็มที่ออกหมาย ป.วิอาญารวม 9 คน เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้ 6 คนตามหมายจับของเจ้าหน้าที่คือ 1.นายอับดุลรอนิง2.นายอาแว 3.นายอิสมาแอ 4.นายอิสดิน5.นายนุรดีน และ 6.นายมูฮำหมัดขณะนี้เจ้าหน้าที่นำตัวทั้ง6 คน เข้าสู่ศูนย์ซักถามเพื่อขยายผลต่อไป

เตือนรถ จยย.18 คันประกอบระเบิดจ้องป่วนใต้



หน่วยข่าวความด้านมั่นคง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้มีคำสั่งให้ทุกหน่วยในพื้้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติงาน และปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด เนื่องจากหน่วยข่าวในพื้นที่ได้รับรายงานว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ได้นำรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 125 จำนวน 18 คัน มาประกอบระเบิด เพื่อเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจ แหล่งชุมชน และตลาดนัด ในจังหวัดปัตตานี

โดยให้ทุกจุดตรวจ จุดสกัดจะต้องตรวจตราอุปกรณ์เครื่องมือในการใช้ให้มีความพร้อม อีกทั้งให้ประสานการปฏิบัติร่วมของจุดตรวจทั้ง 3 ฝ่าย ที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ชั้นนอกถึงชั้นในเขตเมือง หากมีการแจ้งรถหาย หรือบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่ใด ให้ประสานการทำงานในการติดตามจับกุมทันที นอกจากนี้ยังให้จัดกำลังตั้งจุดตรวจลอยตามเส้นทางในย่านชุมชนเมือง และย่านเศรษฐกิจ รวมไปถึงให้มีการกวดขันชุดดูแลความปลอดภัยประจำสถานที่ราชการให้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นด้วย

ส่วนที่จุดตรวจบริเวณทางเข้าออกที่ว่าการอำเภอมืองปัตตานี และศาลากลางจังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ได้นำอุปกรณ์เครื่องตรวจโลหะขนาดใหญ่มาติดตั้ง เพื่อตรวจวัตถุต้องสงสัยกับประชาชนที่มาติดต่อราชการ และเดินทางผ่านเข้าออก โดยไม่เว้นแม้แต่ข้าราชการที่จะเข้าไปทำงาน นอกจากนี้ยังต้องให้นำบัตรประชาชนมาสะแกนตรวจสอบใบหน้า หากเป็นบุคคลต้องสงสัยตามที่มีการขึ้นบัญชีเอาไว้ หรือเข้าไปสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายก็จะสามารถระบุตัวบุคลได้ในทันที

2 พฤษภาคม 2561

#จริงหรือมั่ว!! ก่อเหตุเดือนรอมฏอนได้บุญหรือได้บาป??



ศาสนาอิสลาม เป็นศาสนาที่เรียกร้องความสันติสุข และการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสมานฉันท์ บนพื้นฐานความรัก ความเอื้ออาทร ความถูกต้อง และความเป็นธรรม แต่มีคำถามอยู่ตลอดว่า การก่อเหตุช่วงเดือนรอมฏอน ได้บุญหรือบาป? เป็นคำถามที่ไม่น่ามีขึ้นในหมู่พี่น้องมุสลิมในบ้านเรา แต่ก็ได้ยินทุกปี โดยเฉพาะในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่งรอมฎอนปีนี้ก็ยังได้ยินได้อ่านพบ แท้จริงแล้วเดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งการถือศีล ศึกษาพระคัมภีร์สำหรับชาวมุสลิม และวิงวอนขออภัยโทษถึงความ
ิดที่ผ่านมาจากพระผู้เป็นเจ้า ขอให้ได้รับการนำทางที่ถูกต้องและให้รอดพ้นจากความชั่วร้าย 

แต่...สมุนกลุ่มแสวงหาผลประโยชน์บนหน้าแผ่นดิน บนคราบน้ำตาของประชาชน ผู้บริสุทธิ์ อย่าง กลุ่มขบวนการเปรียบเสมือนซาตานในคราบมนุษย์ มุสลิมสุดโต่ง ได้ใช้เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการระดมพล ก่อเหตุร้ายเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ และได้บิดเบือนว่าจะได้รับบุญเพิ่มเป็นหลายเท่า ซึ่งชาวมุสลิมทั่วไปไม่ได้เห็นด้วยกับการตีความแบบนี้ แต่กลุ่มหัวสุดโต่งอย่าง กลุ่มขบวนการ กลับใช้การตีความประวัติศาสตร์ศาสนา สร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่ม โดยไม่ยำเกรงต่อพระผู้เป็นเจ้า หลอกลวงมุสลิมด้วยกัน แต่คิดๆ แล้ว ก็เหมือนหลอกใช้ หรือหลอกมุสลิมเราให้ไปตายแทน เพียงเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มเพียงอย่างเดียว ไม่มีการยำเกรงต่อพระผู้เป็นเจ้า แม้จะอยู่ในเดือนอันศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม

ยืนยันได้ว่าคำหลอกลวงบิดเบือนของกลุ่มขบวนการ ผู้นำพาความชั่วร้าย และเป็นผู้ชักจูงมวลมนุษย์

ปในทางที่ผิด เนื่องจากความคิดจุดมุ่งหมายของกลุ่มนี้ คือการสร้างความหวาดกลัว การก่อเหตุนองเลือดในช่วงเวลาของการถือศีลเช่นนี้ จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมได้รุนแรงมากกว่าในช่วงเวลาปกติ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแลกมาด้วยความชอบธรรมของกลุ่มที่จะถูกตั้งคำถามจากชาวมุสลิมด้วยกันมากขึ้น ว่าเหตุใดผู้ที่เรียกตนเองว่ามุสลิม จึงเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ผู้ส่งเสริม สนับสนุน ให้เราได้ปฏิบัติศาสนกิจ รวมถึงพี่น้องมุสลิมด้วยกันในเดือนแห่งการแสวงบุญ

ในคัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวเรื่องการฆ่าผู้บริสุทธิ์ไว้ว่า “แท้จริงผู้ใดฆ่าชีวิตหนึ่งโดยมิได้เป็นการชดเชยอีกชีวิตหนึ่ง หรือมิใช่เนื่องจากการบ่อนทำลายในแผ่นดิน ก็เหมือนกับเขาได้ฆ่ามนุษย์ทั้งหมด และผู้ใดไว้ชีวิต ก็เหมือนว่าได้ไว้ชีวิตมนุษย์ทั้งมวล” (อัล-มาอิดะฮ์ 32)

และในคัมภีร์อัลกรุอานยังได้กล่าวเรื่องบาปและความผิดที่ยิ่งใหญ่ และถือเป็นความชั่วร้ายที่สุดทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ รองลงมาจากการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ คือการฆ่าชีวิตที่บริสุทธิ์ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า “และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิตซึ่งอัลลอฮทรงห้ามไว้เว้นแต่เพื่อความยุติธรรม และพวกเขาไม่ผิดประเวณี และผู้ใดกระทำเช่นนั้นจะได้พบกับความผิดอันมหันต์ การลงโทษในวันกิยามะฮฺจะถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับเขา และเขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ” (อัลฟุรกอน: 68-69)

อิสลามเรียกร้องให้อยู่ในหนทางแห่งสันติเรียกร้องให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติท่ามกลางความแตกต่างเรื่องเชื้อชาติ เพศ สีผิว หรือแม้แต่ศาสนา ดังในคัมภีร์อัลกุรอานที่กล่าวว่า “และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใดนอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่ประชาชาติทั้งหลาย (อัลอันบียาอ์ : 2:107)

“รอมฎอน” เดือนแห่งความบริสุทธิ์ เดือนแห่งความดีงาม มุสลิมเราทุกคนปฏิบัติศาสนกิจในเดือน “รอมฎอน” นี้อย่างเคร่งครัด ตามบทบัญญัติของศาสดา ดังนั้นในเดือนรอมฎอนจึงไม่ควรที่จะมีการทำลายล้าง และเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์เกิดขึ้น เพื่อความสงบสุขและสันติภาพในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้บ้านเรา เพราะอิสลามไขว่คว้าสันติภาพ ความเสมอภาค ความเท่าเทียม และความยุติธรรม อินชาอัลลอฮฺ....

#การก่อเหตุช่วงรอมฏอน ได้บุญหรือบาป? ? ?