5 ตุลาคม 2561

ฟันธงกลุ่มโจรใต้ฆ่าสองแม่ลูก รัฐจ่ายเยียวยา 1 ล้าน


ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานในเบื้องต้นว่าเหตุการณ์คนร้ายบุกยิงสองแม่ลูกจนเสียชีวิตคาร้านน้ำชาใน อ.ทุ่งยางแดง เป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ ขณะที่รองผู้ว่าฯปัตตานี มอบเงินเยียวยาให้ทายาททันที 1 ล้านบาท
  เหตุร้ายครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 4 ต.ค.61 น.ส.อารมย์ จอมเพ็ชร อายุ 48 ปี และ นายกวินท์ ชวิศสกุล อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นแม่ลูกกัน ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นจ่อยิงขณะนั่งในร้านน้ำชาเพื่อรับประทานอาหาร ในพื้นที่บ้านควน ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ทำให้ น.ส.อารมย์ เสียชีวิตคาที่ ส่วน นายกวินท์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และสิ้นใจระหว่างนำส่งโรงพยาบาลทุ่งยางแดง
          หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และสอบสวนจนทราบว่า น.ส.อารมย์ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ส่วนนายกวินท์ ลูกชาย ยังเป็นนักศึกษา เรียนอยู่กรุงเทพฯ ช่วงปิดเทอมก็ลงมาเยี่ยมแม่ และช่วยงานแม่ออกตรวจไซต์งานก่อสร้างในพื้นที่ โดยก่อนเกิดเหตุ ทั้งคู่กำลังเดินทางไปทำงาน และแวะรับประทานอาหารเช้าที่ร้านน้ำชา จังหวะนั้นเองคนร้ายซึ่งมากัน 4 คนและคาดว่าสะกดรอยตามผู้ตายมาก่อนแล้ว ได้จอดรถจักรยานยนต์บริเวณหน้าร้าน แล้วใช้อาวุธปืนพกสั้นที่เตรียมมายิงใส่สองแม่ลูก ทำให้เสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรง
    ช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายพงศ์เทพ ไข่มุกด์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย นายอับดุลการีม ยีดำ นายอำเภอทุ่งยางแดง นายธำรงศ์ แสงสุวรรณ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดปัตตานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้ทายาทของ น.ส.อารมย์ และ นายกวินท์ เป็นเงิน 1,000,000 บาท โดยไปมอบกันที่โรงพยาบาลทุ่งยางแดงอย่างรวดเร็ว
  เหตุรุนแรงครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลัง พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ แถลงนโยบายเสริมสร้างสันติสุขชายแดนใต้ได้เพียง 1 วัน ที่อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดย พล.ท.พรศักดิ์ แถลงตอนหนึ่งว่า จะเน้นการแก้ปัญหายาเสพติดในทุกพื้นที่ เพราะสิ่งนี้คือสาเหตุต้นๆ ของปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกำหนดกรอบเวลา 3 เดือน มั่นใจว่าปัญหายาเสพติดในพื้นที่จะดีขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนการทำพื้นที่ให้ปลอดภัย จะดึงภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเป็นเครือข่าย
          พล.ท.พรศักดิ์ ยังเน้นย้ำด้วยว่า การทำงานนับจากนี้ไป ภาคประชาชนต้องมีส่วนร่วมทุกกระบวนการ มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น และช่วยกันทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่ติดยึดศาสนา ประเพณี เพราะคนไทยทุกคนมีความเท่าเทียมกัน หน่วยราชการต้องเลือกคนดีมาปฏิบัติงาน เพื่อจะได้ไม่มีการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความระแวง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น