18 กรกฎาคม 2561

ธนาธร...แค่นักขายฝัน?!!

#อย่าหลง..อย่าไหล ไปตามกระแสของ“ไพร่หมื่นล้าน”นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ?


“ไพร่หมื่นล้าน” ออกมาพรรณนาโวหารถึงตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี”ที่ดูอย่างไร ก็ยังดูคล้ายยังสุดมือคว้า จากการที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่ง เมื่อวันที่2 พ.ค.61 เวลา 20.30 น.ที่ผ่านมา ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ ตอนหนึ่งว่า พรรคอนาคตใหม่มีเป้าหมายหลักๆ คือ เปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในประเทศไทย อาทิ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูปกองทัพ การกระจายอำนาจไปให้ท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการได้เอง เปลี่ยนคอนเซปต์การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของภาครัฐ ซึ่งต้องเปิดข้อมูลทั้งหมดให้ประชาชนรับรู้ ยกเว้นในเรื่องความมั่นคง ซึ่งถ้าเราเปิดข้อมูลได้ทั้งหมด ประชาชนจะเข้ามาร่วมตรวจสอบ ภาคเอกชนก็จะร่วมพัฒนา
นายธนาธร กล่าวว่า ยิ่งมีประชาธิปไตยมากเท่าไหร่ คอรัปชันก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น ในสังคมไทยการบังคับใช้กฎหมายไม่เท่ากัน คนที่อยู่ข้างบนไม่เคยโดนเล่นงาน อย่าไปเชื่อวาทะกรรมเก่าๆ ที่ทำให้คนเกลียดกลัวประชาธิปไตย ส่วนวิธีที่จะทำให้คนเลือกพรรคอนาคตใหม่มีวิธีเดียว ลงไปหาคน เคาะประตูบ้าน ทำให้เขาเห็นหน้ามากที่สุด ให้รู้ถึงความแน่วแน่ ตั้งใจที่จะเข้ามาทำงาน


นายธนาธร กล่าวว่า ทางพรรคอนาคตใหม่ ตั้งงบประมาณไว้ 350 ล้านบาท ในสู้เลือกตั้ง เราไม่ซื้อเสียง ไม่ดูด ส.ส.เชื่อว่าพรรคการเมืองที่ดีไม่ใช่มีนายทุน 2 - 3 คน เราต้องการพรรคที่เป็นของมวลชน เราจะเปิดเผยงบทั้งหมด เหมือนบริษัทมหาชน
นายธนาธร กล่าวอีกว่า ทางพรรคอนาคตใหม่จะใช้กลยุทธ์ทั้งทางโลกออนไลน์ และเคาะประตูบ้าน เข้าขอคะแนนเสียงจากประชาชน โดยเชื่อมั่นว่าพลังโซเชียลสามารถทำให้อะไรก็เกิดขึ้นได้
เมื่อถึงกรณีที่ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา เคยทำนายว่า นายธนาธรมีแววได้นั่งแท่นนายกรัฐมนตรี นายธนาธร ตอบว่า "ต้องการเป็นสิครับ การเปลี่ยนแปลงประเทศต้องมีอำนาจทางการเมือง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ตัดสินใจแบบนี้ จะใช้เวลากี่ปีไม่มีใครรู้ เชื่อว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เรื่องที่มีประสบการณ์มาก่อน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประชาชน ถ้าประชาชนพร้อม ผมก็พร้อม"


เมื่อถามว่า นิยามความสำเร็จทางการเมืองคืออะไร นายธนาธร กล่าวว่า "ความสำเร็จของผม ผมอาจเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจากการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ได้"
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ “ธนาธร” #จะออกมาวาดฝันถึงตำแหน่งนายกฯในเมื่อเป็นไปตาม”หลักการประชาธิปไตย” แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว“ธนาธร”ต้องยอมรับก่อนว่าเป็นไปได้อยาก
ดังนั้นการที่ “ธนาธร”ออกมาสร้างกระแสให้สัมภาษณ์ “..ผมอาจเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปจากการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ได้" เป็นเพียงวาทะกรรมทางการเมือง ไม่มีโอกาสขึ้นถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ เป็นเพียงการสร้างกระแสเพื่อให้ตนเปิดทางเข้าสภาเท่านั้นเอง.