เมื่อ 24 พ.ค.60 เวลา 19.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ
สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงราษฎรเสียชีวิต
1 ราย ทราบชื่อคือ นายอับดุลรอมัน แวจิ อยู่บ้านเลขที่ 69/1
ม.7 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
แหล่งข่าวในพื้นที่ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกว่า
นายอับดุลรอมัน แวจิ เคยยิงกับโจรใต้เมื่อปี 47 และเคยถูกกลุ่มคนร้ายลอบยิงเมื่อปี
48 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มขบวนการโจรใต้ BRN และในที่สุด นายอับดุลรอมัน
แวจิ ก็หนีไม่พ้นความตาย ถูกทีมงูเต๊ะตามเก็บซึ่งต่อจากนี้ไปคอยเฝ้าจับตาสื่อขบวนการโจรใต้จะมีการบิดเบือนข้อมูลกล่าวหาว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ทีมงูเต๊ะ คือ
ทีมสมุนกลุ่มผลประโยชน์ธุรกิจมืดของกลุ่มขบวนการ BRN จากการที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์
ว่าทีมงูเต๊ะคือทีมล่าสังหารของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจริงๆ แล้ว
สื่อแนวร่วมต้องการสื่อให้เห็นว่าเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นเกือบทุกวันว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่
เช่น การยิงกันเสียชีวิตของคนในพื้นที่ , คนร้ายขับรถมายิง
จากการรวบรวมข้อมูลหลักฐานพบว่า การก่อเหตุของคนร้ายทุกครั้งที่ก่อเหตุ
มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจมืดของกลุ่มขบวนการทั้งสิ้น เช่น น้ำมันเถื่อน
ค้ายาเสพติด สินค้าหนีภาษี ค้าไม้เถื่อน การเรียกค่าคุ้มครองในพื้นที่ ดังเช่น
การระเบิด Big C เรียกค่าคุ้มครอง 6
ล้าน และยังมีอีกหลายชีวิตที่ต้องจบลงเพราะไม่ยอมจ่ายค่าคุ้มครองให้กับขบวนการ
และยังมีการฆ่าปิดปากชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ที่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่
และยังรับก่อเหตุฆ่ารายวันเพื่อสร้างสถานการณ์อีกด้วย
ทีมงูเต๊ะนั้นมีมานานแล้ว
ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุการณ์ จะสังเกตได้ว่าเหตุการณ์รุนแรงการก่อเหตุรายวัน
ก็เพราะช่วง 8 ปีแรกๆ นั้น
คนในพื้นที่ไม่ยอมจ่ายเงินสนับสนุนและเงินค่าคุ้มครองให้กับกลุ่มขบวนการ เช่น
การบีบบังคับการบริจาคเงินของคนในพื้นที่, การก่อเหตุเชือดไก่ให้ลิงดูเพื่อทำให้คนในพื้นที่กลัวยอมจ่ายเงินให้กับกลุ่มขบวนการ
จึงทำให้กลุ่มขบวนการเองต้องมีทีมรักษาผลประโยชน์ของตนไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสนับสนุนการก่อเหตุ
แต่ระยะ 5 ปี หลังเริ่มก่อเหตุฆ่ารายวัน เริ่มลางๆ ออกไป
ก็เพราะกลุ่มขบวนการเองได้เงินสนับสนุนจากธุรกิจมืดดังที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น
ปัจจุบัน
หลังจากการกวาดล้างธุรกิจมืดของกลุ่มขบวนการอย่างหนักของเจ้าหน้าที่
ทำให้กลุ่มขบวนการบางคนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่
และชาวบ้านในพื้นที่เองแจ้งแบะแสทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับธุรกิจมืดเป็นรายวัน
ทำให้ทีมงูเต๊ะ ก็ต้องฆ่ารายวันเช่นเดียวกันเพื่อรักษาผลประโยชน์มหาศาลของกลุ่มขบวนการไว้
แหละนี้ก็คือข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มขบวนการ BRN มีการจัดทีมล่าสังหารผู้ที่ขัดขวางผลประโยชน์ของตนเองและฆ่าได้แม้แต่กลุ่มของตนเองที่ทำให้เสียประโยชน์
นั้นก็คือ ทีมงูเต๊ะ
การจัดตั้งทีมงูเต๊ะ
สำหรับการจัดตั้งทีมล่าสังหารเพื่อผลประโยชน์ธุรกิจมืดของกลุ่มขบวนการ
มีการจัดตั้งแนวร่วมจำนวนไม่มาก แต่เน้นจัดตั้งแนวร่วมที่มีปัญหาส่วนตัว
มีระดับของสติปัญญาและฐานะทางครอบครัวและเศรษฐกิจด้อยกว่าคนอื่น ในหมู่บ้าน เช่น
กลุ่มเยาวชนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและกลุ่มคนที่เกี่ยวของกับธุรกิจมืดโดยเฉพาะน้ำมันเถื่อน
มีการจัดตั้งหัวหน้าควบคุมแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้การก่อเหตุทุกครั้งจะเน้นเยาวชนที่เข้าร่วมกับกลุ่มขบวนการ
เพราะเวลาก่อเหตุเสร็จก็จะยากต่อการสืบหา เพราะในสารบบเจ้าหน้าที่ไม่มีข้อมูล
การก่อเหตุทุกครั้งยังเป็นการฝึกทดสอบเยาวชนของกลุ่มขบวนการก่อนจะเข้าเป็น RKK ของกลุ่มขบวนการอีกด้วย การยิงนกปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ได้ทั้งเงินทอง
ได้ทั้งกำจัดเสี้ยนหนามของกลุ่มขบวนการเอง ได้ทั้งโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่
ได้ทั้งฝึกเยาวชนที่เข้าร่วมขบวนการของตัวเอง
แผนอันชั่วช้าของกลุ่มขบวนการ
BRN
ทำได้ทุกอย่าง แม้แต่ความสูญเสียต่อคนมุสลิมในพื้นที่ชายแดนใต้
กลุ่มทีมงูเต๊ะ
ก็ยอมทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มขบวนการให้อย่างไม่ลืมหูลืมตาก้มหน้ารับใช้ BRN กับผลประโยชน์ที่แบ่งกันกินแบ่งกันใช้ของกลุ่มขบวนการที่อยู่บนความสูญเสียกับคราบน้ำตาของคนในพื้นที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น