22 มิถุนายน 2561

เปิดประวัติ นายซานูซี ยาแต โจรใต้ขนระเบิด เคยร่วมโจมตีฐานพระองค์ดำ และคดีอื่นๆ อีกหลายคดี



นายซานูซี ยาแต มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุสำคัญ ในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง เช่น เข้าร่วมโจมตีฐาน ร้อย ร.15121 (ฐานพระองค์ดำ) 
เมื่อ 19 มกราคม 2554 เข้าร่วมทำการเข้ายึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เมื่อ 13 มกราคม 2559 และอื่นๆ อีกหลายคดี อีกทั้งยังเคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธปืน และถูกจำขังที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส เป็นเวลา 4 ปี พ้นโทษออกมา เมื่อปี 2558 ...
 

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2561 เวลา 09.30 นาฬิกา พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า กรณีการตรวจยึดวัตถุระเบิดในพื้นที่ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง จำนวน 40 ลูก และอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนหนึ่ง ดังนี้

กรณีเมื่อ 21 มิถุนายน 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จำนวน 3 นาย ลาดตระเวนบนทางหลวง หมายเลข 4057 ระหว่างอำเภอสุไหงโก-ลก – อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ฮ้อ อีซูซุ รุ่นดีแม๊ก สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บท 2788 ปัตตานี มีพิรุธ เมื่อพบเจ้าหน้าที่ได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามจนสามารถควบคุมรถคันดังกล่าวได้พบบุคคลภายในรถ จำนวน 2 คน คบคุมตัวไว้ได้ 1 คน คือ นายซานูซี ยาแต อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1หมู่ 10 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จังหวัดนราธิวาส ส่วนอีก 1 คน หลบหนีไปได้ ทราบว่าชื่อคือ นายอับดุลอาซิ สามะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 1 ตำบลบางขุนทอง อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จากการตรวจค้นภายในรถ พบวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง และอุปกรณ์ประกอบระเบิด จำนวน 7 รายการ ดังนี้.-


1. ระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง จำนวน 40 ลูก
2. วงจรวิทยุสื่อสาร จำนวน 2 กล่อง
3. ชุดวงจรตั้งเวลา 5 นาที จำนวน 36 กล่อง
4. ชุดวงจรตั้งเวลา 10 นาที จำนวน 1 กล่อง
5. ชุดวงจรตั้งเวลา 30 นาที จำนวน 2 กล่อง
6. ระเบิดแสวงเครื่องแบบท่อเหล็ก จำนวน 1 ลูก
7. ไฟฉาย จำนวน 4 กระบอก

เหตุการณ์ดังกล่าว จะเห็นได้ว่าคนร้ายยังคงพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อสร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ทำลายเศรษฐกิจ และความสงบสุขในพื้นที่ ในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยรวบรวมวัตถุพยาน สืบสวน สอบสวน เพื่อขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง และจะบังคับใช้กฎหมาย เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำผิดที่ร่วมขบวนการมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป พร้อมทั้ง ได้ชื่นชมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม และแหล่งข่าวภาคประชาชน ที่ช่วยกันแจ้งเบาะแส จนสามารถนำไปสู่การจับกุมและตรวจยึดระเบิด ดังกล่าว ไว้ได้ก่อนที่จะนำไปก่อเหตุ สามารถป้องกันชีวิต และทรัพย์สินได้เป็นจำนวนมา

จากการตรวจสอบพฤติกรรมคนร้ายในเบื้องต้น นายซานูซี ยาแต มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุสำคัญ ในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง เช่น เข้าร่วมโจมตีฐาน ร้อย ร.15121 (ฐานพระองค์ดำ) เมื่อ 19 มกราคม 2554, การเข้ายึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เมื่อ 13 มกราคม 2559 และอื่นๆ อีกหลายคดี เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธปืน และถูกจำขังที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส เป็นเวลา 4 ปี พ้นโทษออกมา เมื่อปี 2558 สำหรับ นายอับดุลอาซิ สามะ ที่หลบหนีไปได้นั้น เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุม พร้อมกับขายผลไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ต่อไป ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจค้นที่บ้านพักของ นายซานูซีฯ ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยเพื่อใช้ในการประกอบระเบิด จำนวน 7 รายการ และตรวจค้นบ้านพักของ นายอับดุลอาซิฯ จากการตรวจสอบยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย สำหรับรถยนต์คันที่ใช้ขนระเบิดเป็นรถของ นายอุษมา ยาแต น้องชายของ นายซานูซีฯ ถูกควบคุมตัวกรณีมีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตี เจ้าหน้าที่ ร้อย ร.15121 เมื่อ 2554 และศาลตัดสินจำคุก ตลอดชีวิต

ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยได้เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติด้วยการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด แบบไม่ประจำที่ ไม่เป็นเวลา ให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถสกัดกั้นความพยายามในการก่อเหตุ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

1 มิถุนายน 2561

บุกยึดบุหรี่เถื่อนล็อตใหญ่สงขลามูลค่ากว่า 9 ล้านบาท



เมื่อวันที่ 31 พ.ค.61 นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต นายธรรมศักดิ์ ลอเอี่ยม ที่ปรึกษาพัฒนาระบบการจัดเก็บภาษีกรมสรรพสามิต นายวิวัฒน์ เขาสกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปรามกรมสรรพสามิต, นายมาโนช พิทักษ์ ผอ.สภ.9 นำกำลังเจ้าหน้าที่สรรพสามิตภาคที่9 และทหาร บก.ควบคุม ค่ายเสณาณรงค์ ปฏิบัติการแบบสายฟ้าแล๊ปเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 64 หมู่ 4 ต.คลองอู่ตะเภา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งถูกใช้เป็นโกดังที่เก็บบุหรี่เถื่อนหรือบุหรี่หนีภาษีที่ลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยเป็นบ้านชั้นเดียวตั้งอยู่ในป่าสวนยางและมีการใช้ผ้าสแลนกั้นเป็นรั้วมิดชิด เพื่อไม่ให้เห็นความเคลื่อนไหวภายในจากการตรวจสอบพบว่าโกดังแห่งนี้มีการล็อคด้วยกุญแจหนาแน่นแต่ไม่มีใครอยู่ภายในบ้านคาดว่าจะไหวตัวทันหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ต้องงัดประตูเข้าไปและพบกับกองบุหรี่เถื่อนจำนวนมากนับได้ 51 ลัง วางอยู่ภายในบ้านโดยใส่ถุงดำไว้อีกชั้น โดยแต่ละลังจะมีบุหรี่จำนวน 25 แถว รวมทั้งหมด 15,000 ซอง มูลค่าเปรียบเทียบปรับกว่า 9 ล้านบาท

นายธรรมศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปรามสำนักงานสรรพสามิตภาคที่9 ทราบว่าจะมีการลักลอบนำบุหรี่เถื่อนลอตใหญ่เข้ามาทางชายแดนประเทศเพื่อนบ้านและนำมาเก็บไว้ที่บ้านหลังนี้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เพื่อรอกระจายออกสู่ตลาดทั้งใน จ.สงขลา และจังหวัดในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนจู่โจมเข้าตรวจค้นและยึดได้ทั้งหมด และหลังจากนี้จะเร่งสืบสวนขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบ้านและนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง และเป็นบุหรี่เถื่อนล๊อตใหญ่อีกลอตหนึ่งที่เจ้าหน้าที่สามารถยึดได้ในรอบปีนี้