1 เมษายน 2561

เปิดปมกรณีกระแสโชเชียลแห่แชร์คลิป! จนท.ทหารมีอำนาจตรวจสอบหรือไม่!!



เปิดปมกรณีกระแสโชเชียลแชร์คลิป! ชายแต่งชุดทหารพบผู้บริหารโรงแรมภูเก็ต บอกเข้าข่ายผู้มีอิทธิพล Cheng Yeap C โพสต์คลิปผ่าน Youtube เป็นการพูดคุยของชายแต่งกายเครื่องแบบคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร 3 คนพกปืน กับผู้ประกอบการหรือผู้บริหารโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต โดยหนึ่งในนั้นพูดว่าใช้มาตรา 44 ในการมาครั้งนี้ รวมทั้งบอกให้ผู้บริหารรายนี้อยู่รอผู้บังคับบัญชาก่อน โดยโพสต์เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 61 

ผู้บริหารโรงแรมรายนี้ตอบกลับว่า ผมจะไม่อยู่ แล้วจะดูว่าคุณจะทำอะไรผม ก็ผมอยากลองไง ผมบอกเลยนะขบวนการของคุณเนี่ยเดี๋ยวผมจะล้างให้หมด คุณทำเรื่องอะไร คุณมายุ่งกับกิจการเรื่องภายในของผมเรื่องอะไร ขอเหตุผล

ร.ต.วัฒนชัยฯ มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายหรือไม่?   

          ร.ต.วัฒนชัย   คล่องประดิษฐ์  ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งหัวหน้าชุดรักษาความสงบเรียบร้อย ตามคำสั่ง คสช. ที่ 13/59 ซึ่งในคำสั่งนี้ เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม หมายความว่า ข้าราชการทหารซึ่งมียศตั้งแต่ชั้น ร้อยตรี เรือตรี หรือเรืออากาศตรี ขึ้นไป ซึ่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย จาก หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามคำสั่งนี้ 

          ด้วยปรากฏว่าได้มีบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์กระทำความผิดอาญาบางประการที่เป็นภยันตราย ต่อความสงบ เรียบร้อยหรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยการข่มเหง ขู่เข็ญ รังแก หรือแสดงตน อันเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเกรงกลัว ไม่กล้าขัดขืน หรือร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพราะเกรงภยันตรายจะเกิดแก่ตน นอกจากนี้ยังปรากฏว่ามีบุคคลที่ดำรงชีพด้วยการกระทำผิดกฎหมาย เช่น ค้ายาเสพติด เป็นเจ้ามือพนัน มีพฤติการณ์ซ่องสุมอาวุธ เพื่อให้สามารถได้รับประโยชน์ต่างๆ ที่มิชอบด้วยกฎหมาย การที่จะนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีจึงมีความยุ่งยาก ซับซ้อน หรืออาจเกิดความเสี่ยงภัยต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จึงจำเป็นต้องกำหนดกระบวนการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาญาที่มีลักษณะดังกล่าวเป็นพิเศษเพื่อเป็นมาตรการเสริมกระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่ดำเนินการอยู่อยู่ในปัจจุบัน อันจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปราม การกระทำความผิดอาญา รวมทั้งคุ้มครองความสงบเรียบร้อย และระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตลอดจนเป็นการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพให้แก่สุจริตชน    
     
การปฏิบัติในการเข้าตรวจค้นโดยอาศัยมาตรา 44 

ทั้งนี้ มาตรา 44 ได้มอบอำนาจให้กับข้าราชการทหาร ในการปราบปรามการกระทำผิดที่ระบุไว้ข้างต้น ด้วยวิธีการ ดังต่อไปนี้  

          1) เรียกให้มารายงานตัว ส่งมอบเอกสาร หรือหลักฐาน ที่เกี่ยวกับการกระทำผิดข้างต้นในกรณีที่การสอบสวนยัง ไม่เสร็จสิ้น มาตรา 44 กำหนดให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจกักตัวบุคคลดังกล่าวไว้ได้ไม่เกิน ๗ วัน ในที่ที่ไม่ใช่สถานีตำรวจ ที่คุมขัง หรือเรือนจำ ทั้งนี้ การขึ้นศาลทหาร จำกัดไว้เพียงบุคคลที่กระทำผิดต่อความมั่นคงของประเทศเท่านั้น  

          2) จับกุมได้ทันทีเมื่อทำความผิดข้างต้นแบบซึ่งหน้า และนำส่งเจ้าพนักงานสืบสวนให้ดำเนินการต่อไป
********************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น