เมื่อวันที่ 7
พฤศจิกายน 2560 เวลา 14.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี อำเภอเมือง
จังหวัดปัตตานี พลตำรวจตรี ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ได้แถลงความคืบหน้าคดีความมั่นคง
ต่อสื่อมวลชนรวมสองคดี
ซึ่งสองคดีเหตุเกิดขึ้นในท้องที่อำเภอหนองจิก
จังหวัดปัตตานี โดยเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2559 คนร้ายเผาร้านสะดวกซื้อ
และวางระเบิดสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ปตท. และระเบิดเสาไฟฟ้าในพื้นที่อำเภอหนองจิก
เมื่อ และเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2560 เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่
อำเภอหนองจิก
เหตุการณ์แรก
เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2559 เวลาประมาณ 21.30 น.คนร้ายประมาณ 7-8 คน
สวมใส่หมวกไหมพรมปิดหน้า ใช้อาวุธปืนครบมือยิงหม้อแปลงไฟฟ้า ของสถานีบริการน้ำมัน
ปตท. จากนั้นเข้าไปในร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น บังคับให้พนักงานในร้านหมอบลงและใช้อาวุธปืนยิงที่กระจกร้าน
ก่อนที่จะวางเพลิงเป็นเหตุให้ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นได้รับความเสียหายทั้งหมด
จากนั้นคนร้ายวางระเบิดซุกซ่อนไว้บริเวณทางเข้าสถานีบริการน้ำมันก่อนที่จะหลบหนีไป
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้เกิดระเบิดขึ้นเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ
1 นาย ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560
พนักงานสอบสวนคดีความมั่นคงและยื่นคำร้องต่อศาลและศาลจังหวัดปัตตานีได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจำนวน
6 รายในความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ร่วมกันทำให้เกิดระเบิด
ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ร่วมกันก่อการร้ายและร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์
เหตุการณ์ที่สอง
เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ อำเภอหนองจิก เมื่อวันที่ 15
กรกฎาคม 2560 หตุเกิดบริเวณถนนสายดอนยาง – หาดใหญ่ หมู่ 8 บ้านโคกกอ ตำบลบ่อทอง
อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี โดยมีคนร้ายจำนวน 4 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ จากนั้นใช้อาวุธปืนสงคราม
และปืนพกสั้นขนาด .38 ยิงบ้านเรือนราษฎรที่พักอาศัยอยู่บริเวณริมถนนสายดอนยาง
มุ่งหน้าเข้าอำเภอหาดใหญ่ เป็นเหตุให้มีบ้านเรือนราษฎรเสียหายจำนวน 8 หลัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
7 ราย ต่อมาเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560
พนักงานสอบสวนคดีความมั่นคงและยื่นคำร้องต่อศาลและศาลจังหวัดปัตตานีได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจำนวน
7 คน ในความผิด ฐานร่วมกันก่อการร้าย ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืน
อั้งยี่และซ่องโจร
ทั้งสองเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน
ซึ่งสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือนายซาการียา หัดสมัด และนายมะซอรี อามะ
ซึ่งรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายไปดำเนินคดีต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น