10 พฤษภาคม 2560

เกิดอะไรขึ้นที่ชายแดนใต้!!

"นายกะลา"


สถานการณ์ไฟใต้ประเทศไทยที่ก่อเกิดมานับสิบสี่ปี ผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ผลของการใช้ความรุนแรงได้สร้างความสูญเสียคร่าชีวิตผู้คน 7,000 กว่าราย รัฐต้องเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบ 4,972 ราย ส่งผลให้เกิดปัญหาทางสังคมยอดเด็กกำพร้าสูงถึง 6,421 ราย อีกทั้งหญิงหม้าย 3,000 กว่าคนต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูบุตรเพียงลำพังเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว

เหตุการณ์ความรุนแรงล่าสุดในช่วงบ่ายของวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 กรณีคนร้ายนำระเบิดบรรจุ ในรถยนต์เข้าจอดบริเวณหน้าห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี แรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้สร้างความความเสียหายต่อทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีประชาชนทั้งชาวไทยพุทธ-มุสลิม ที่มาจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคต้อนรับเปิดเทอมให้บุตรหลาน ตลอดจนพนักงานห้างได้รับบาดเจ็บ 61 ราย ซึ่งในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บมีเด็กรวมอยู่ด้วยจำนวน 8 ราย


จังหวัดชายแดนภาคใต้รากเหง้าเกิดจากการปัญหาด้านการศึกษา เศรษฐกิจ และสังคม ที่สะสมมานานไม่ได้รับการแก้ไข จนกระทั่งมีบุคคลบางกลุ่มนำปัญหาดังกล่าวมากล่าวหารัฐลำเอียง เลือกปฏิบัติ ไม่มีความเท่าเทียมในสังคม มีการรวมตัวในฐานะผู้เห็นต่างจากรัฐ ก่อตั้งขบวนการแบ่งแยกดินแดน ด้วยการสร้างเงื่อนไขในการต่อสู้ นำไปสู่ความ ชอบธรรม ในการมุ่งไปสู่การกำหนดใจตนเองเพื่อต้องการแยกตัวเป็นเอกราชจากรัฐบาลไทย

เงื่อนไขของกลุ่มขบวนการในการมุ่งไปสู่เป้าหมาย เอกราชด้วยการใช้กำลังและงานการเมืองควบคู่กัน ซึ่ง งานการเมือง จะมีกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคมทำหน้าที่เป็น ปีกการเมือง ในการขับเคลื่อนเงื่อนไข 4 ข้อด้วยกันเพื่อสร้าง ความชอบธรรม ในการกำหนดใจตนเอง (RSD) กล่าวคือ การขับเคลื่อนให้เห็นว่าพื้นที่ จชต. แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งด้วยอาวุธ เป็นพื้นที่ถูกยึดครองโดยรัฐสยาม ซึ่งดินแดนแห่งนี้มีอัตลักษณ์เฉพาะ และมีการชี้นำให้เห็นว่ารัฐละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง เพื่อต้องการสื่อไปยังองค์กรระหว่างประเทศ

พลังในการขับเคลื่อนมาจากปัจจัยในเรื่อง ชาติพันธุ์ ศาสนา และมาตุภูมิเพื่อทำการโน้มน้าว ให้ประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมขบวนการ เห็นต่างจากรัฐ มุ่งใช้ยุทธศาสตร์ สงครามประชาชนโดยมีองค์กรนำคอยบัญชาการอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน สั่งการให้สมาชิกแนวร่วมทำการก่อเหตุ ซึ่งจะมีกลุ่มมวลชนจัดตั้งคอยสนับสนุน
เงื่อนไขผลักดันสู่ความขัดแย้ง ประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ และอัตลักษณ์มีการบิดเบือนในเรื่องประวัติศาสตร์ ซึ่งปฐมบทชายแดนใต้เริ่มมีความขัดแย้งหลังปี พ.ศ.2452 มีการใช้ ชาติพันธุ์ ของความเป็น ออแก นายู (ชาวมลายู) การนับถือศาสนาเดียวกันตลอดจนวัฒนธรรมประจำถิ่นในเรื่องของภาษาและวิถีชีวิตที่มุ่งไปสู่ สังคมเชิงเดี่ยว ให้เกิดขึ้นในพื้นที่

ปัญหาในด้านการศึกษาในปี พ.ศ.2559 จากสถิติเยาวชนใน จชต.ช่วงอายุ 15-17 ปี ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 105,033 คน พบว่าเรียนอยู่ในระบบ 59,564 คน แต่ที่น่าตกใจมีกลุ่มเยาวชนที่หายไปจากระบบการศึกษา 33,000 คน ไปอยู่ที่ไหน ผู้ที่อยู่ในระบบการศึกษาส่วนใหญ่จะเรียนในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ซึ่งมีถึง 41,228 คน โรงเรียนรัฐบาล 12,940 คน และที่เหลือเรียนต่อสายอาชีพ 4,755 คน โรงเรียนเอกชนสายสามัญ 642 คน และเรียนในสถาบันการศึกษาปอเนาะ 12,00 คน

ข้อมูลเชิงสถิติข้างต้นพอจะมองเห็น คุณภาพ และโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนในพื้นที่ จชต.ไม่สามารถต่อสู้กับเยาวชนในภูมิภาคอื่นๆ ได้ในการสอบแข่งขันเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ซึ่งที่ผ่านๆ มาในอดีตหรือปัจจุบันสู้ได้แต่น้อยมาก ยังไม่นับรวมถึงกลุ่มเยาวชน 30,000 กว่าคนที่หายไปจากระบบการศึกษา เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดยาเสพติดอีกทั้งยังเป็นเป้าถูกชักชวนให้เข้าสู่ขบวนการทำการก่อเหตุสร้างสถานการณ์

เพราะฉะนั้นปัญหาที่ยืดเยื้อมายาวนานเป็นแค่ปลายเหตุ ต้นเหตุใหญ่มาจากต้นทุนในเรื่องการศึกษา ปัญหาด้านเศรษฐกิจ และสังคมที่กลุ่มขบวนการผลักผู้คนให้เห็นต่างจากรัฐใช้เป็นเครื่องมือในการต่อสู่เพื่อแยกตัวเป็นเอกราช อีกทั้งยังใช้ปีกการเมืองเคลื่อนไหวต่อสู้ทางความคิดบิดเบือนข้อมูล ปลุกระดม ปลุกปั่นชี้ให้เห็นว่าดินแดนแห่งนี้ถูกยึดครอง ขัดแย้งด้วยอาวุธ มีการทำลายอัตลักษณ์และมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง เพื่อต้องการดึงต่างชาติ องค์กร

ระหว่างประเทศเข้ามาแทรกแซงการแก้ปัญหาของรัฐบาลไทย...กลุ่มคนเหล่านี้คิดถูกหรือ? ลองหันไปดูบรรพบุรุษพี่น้องเราในตะวันออกกลางหลายๆ ประเทศต้องล่มสลายเป็นตัวอย่าง ประเทศเหล่านี้ดึงต่างชาติเข้ามา...ผลเป็นอย่างไร? เกิดความหายนะในหลายประเทศ มีแต่ซากปรักหักพังไม่หลงเหลืออะไรเลยมีแต่ความสูญเสียสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง...ถามใจพี่น้องในพื้นที่...อยากให้จังหวัดชายแดนใต้ของเราที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นเช่นนั้นหรือ!!!!.....

-------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น