BRN vs มาราปัตตานี ศึกชิงบัลลังก์สุลต่านปาตานี
การเจรจาสันติสุขระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มมาราปัตตานี อาจถึงทางตัน เนื่องจากกลุ่มมาราปาตานีขู่ว่าจะไม่เดินหน้าต่อไปเรื่องแผนการกำหนดพื้นที่ปลอดภัย เว้นเสียแต่ว่ารัฐบาลจะปล่อยตัวสมาชิกกลุ่มของตนสามคนที่อยู่ในเรือนจำ โดยแหล่งข่าวที่ขอไม่เปิดเผยนามกล่าวว่า หากอนุญาตตามคำขอ จะไม่ถือเป็นการอภัยโทษ แต่จะเป็นการปล่อยตัวก่อนกำหนด แต่หากไม่อนุญาตตามคำขอ จะทำให้เรื่องการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยหยุดชะงักลง
เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้แก่ BRN เป็นอย่างมากเพราะยังมีสมาชิกของ BRN จำนวนหนึ่งที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำและไม่มีทีท่าว่าจะได้รับการปล่อยตัวอีกเช่นกัน รวมทั้งได้มีสมาชิกของกลุ่มในระดับปฏิบัติการที่เริ่มให้ความร่วมมือกับรัฐในโครงการพาคนกลับบ้านทำให้อำนาจการต่อรองของ BRN ลดลง เป็นเหตุให้สมาชิกระดับแกนนำ BRN ที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ยังคงปฏิเสธเข้าร่วมโต๊ะเจรจาสันติสุขครั้งนี้ และเลือกที่จะเดินหน้าก่อเหตุรุนแรงเพื่อสร้างอำนาจการต่อรองของกลุ่มตนให้เพิ่มมากขึ้นต่อไป
ด้วยความเลิ่กลั่กของมาราปัตตานีที่ไม่อาจจะเป็นผู้นำหรือหัวหอกของขบวนการต่างๆที่เคลื่อนไหวในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ของไทยโดยเฉพาะ BRN ได้ตามที่ตัวเองกล่าวอ้างกับไทย จึงทำการ “ซื้อเวลา” โดยการออกแถลงการณ์ตอบโต้แม่ทัพภาคที่4 เรื่องพื้นที่ safety zone ไปพลางๆ จนกว่าผู้นำทั้งหมดของ BRN ในพื้นที่ ตัดสินใจที่จะอยู่ภายใต้การควบคุมของมาราปัตตานีและร่วมพูดคุยในกระบวนการสันติภาพนี้
ทั้งนี้แหล่งข่าวของ BRN ทั้งนี้ กล่าวว่า กลุ่มยังมุ่งมั่นต้องการให้ปัตตานี ซึ่งเป็นภูมิลำเนาดั้งเดิมของชาวมลายูที่ปัจจุบันเป็นพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ของไทยเป็นอิสรภาพ โดยการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนและสร้างความแตกแยกทางด้านศาสนา รวมทั้งทางกลุ่มไม่ได้คิดที่จะเข้าสู่การเจรจาเพื่อสร้างสันติภาพกับไทยเลย แหล่งข่าวกล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น การประชุมที่กำหนดไว้ระหว่าง พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะเจรจาของไทยและนายดุนเลาะห์ แวมะนอ แกนนำสูงสุดของ BRN ซึ่งจะมีขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย ก็กลับทำให้กลุ่มมาราปัตตานีและ BRN ยิ่งขัดแย้งกันมากขึ้นไปอีกเนื่องจากแกนนำมาราปัตตานีมองว่ากลุ่มของตนเองอาจถูกลดบทบาทในการเจรจากับไทยไปให้แก่กลุ่ม BRN และจะทำให้กลุ่มของตนเสียผลประโยชน์จากการเจรจาสันติสุขในครั้งนี้
สุดท้ายแล้วดูเหมือนว่าการเจรจาสันติสุขในครั้งนี้อาจจะล่มลงไปอีกครั้ง จากการขาดเอกภาพของบรรดากลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้เอง โดยแต่และกลุ่มก็มุ่งเน้นผลประโยชน์ของตนเองและยังบางกลุ่มโดยเฉพาะ BRN ยังเชื่อมั่นว่าการใช้กำลังและความรุนแรงต่อประชาชนเป็นทางแก้ไขของปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อยู่ นี่คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่รัฐบาลไทยต้องดำเนินการรวบรวมกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ให้มาร่วมการเจรจาสันติสุขให้ได้มากที่สุดเพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนและแก้ไขปัญหาสามจังหวัดภาคใต้ด้วยความยั่งยืนต่อไป --------------------------------------------
#ไม่มีโจรใต้ไม่มีความรุนแรง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น