19 มีนาคม 2561

แฉโกงเงินอุดหนุน รร.สอนศาสนาชายแดนใต้ 3 ปี รัฐสูญเงิน134 ล้าน!


ข้อมูลปี 2556-58 ระบุไว้เกี่ยวกับปัญหาเด็กนักเรียนจำนวนเงิน14,000 บาท/คน ซ้ำซ้อนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปีงบประมาณ 2556 มีโรงเรียนเอกชนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องคืนเงินอุดหนุนฯจำนวน 256 โรง จำนวนเงินทั้งสิ้น 43,300,000 บาท

- ปีงบประมาณ 2557 มีโรงเรียนฯที่ต้องคืนเงินอุดหนุน 227 โรง จำนวนเงินที่ต้องส่งคืน 82,300,000 บาท

- ปีงบประมาณ 2558 มีโรงเรียนฯต้องส่งคืนจำนวนเงินอุดหนุน 8,800,000 บาท

สำหรับโรงเรียนที่ต้องส่งคืนเงินอุดหนุน แยกรายจังหวัด พบว่า ปีงบประมาณ 2556 จ.นราธิวาส มี 58 โรง จ.ปัตตานี 92 โรง จ.ยะลา 57 โรง จ.สงขลา 32 โรง และ จ.สตูล 17 โรง  และปีงบประมาณ 2557 จ.นราธิวาส 43 โรง จ.ปัตตานี 81 โรง  จ.ยะลา 54 โรง จ.สงขลา 33 โรง และ จ.สตูล 16 โรง
สาเหตุหลักของปัญหานี้คือโรงเรียนเอกชนส่วนใหญ่ไม่ได้ใส่ใจกับระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ไม่ได้ติดตามว่านักเรียนที่ขาดเรียนหายไปไหน ไม่ได้ทำตามระเบียบที่มีอยู่ว่าหากนักเรียนขาดเรียนเกิน 15 วันจะต้องตัดชื่อออก แต่จะโดยตั้งใจหรือเกิดจากความไม่ใส่ใจก็ตาม แต่ไม่มีการตัดชื่อนักเรียนส่วนนี้ออก ทั้งที่ร็ทั้งรู้ว่าจะทำให้รัฐเสียหาย

การแก้ไขเรื่องนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) ได้เริ่มตรวจสอบเมื่อปี 2556 ด้วยการเอาข้อมูลนักเรียนสังกัด สช.ของโรงเรียนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปตรวจสอบกับนักเรียนสังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ด้วยการเทียบเลขบัตร ปชช 13 หลัก พบนักเรียนซ้ำซ้อนเรียนอยู่สองที่พร้อมกันจำนวนมาก ทำให้ได้รับเงินอุดหนุนเกินจริง ประเมินเป็นความเสียหายที่โรงเรียนเอกชนต้องคืน 43.3 ล้าน ทั้งนี้ยังไม่รวมรร.ที่สังกัด กศน. และอาชีวศึกษา ต่อมาในปี 2557 จึงเอาข้อมูลไปตรวจสอบทั้งกับ สพฐ. กศน. และอาชีวศึกษา ตัวเลขที่โรงเรียนเอกชนต้องคืนอยู่ที่ 82.3 ล้าน จึงมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นในปีต่อมา ปัญหาจึงได้รับการแก้ไข ซึ่งในปี 2558 ความเสียหายอยู่ที่ 8.8 ล้าน ลดลงถึง 89%

เป็นที่น่าสนใจคือเงินจำนวนนี้ไปไหน ถูกใช้ในการสนับสนุนการก่อเหตุรุนแรงต่างๆในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ ถ้าใช่ก็คงจะเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐที่จะต้องดำเนินการแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน และควรมีมาตรการบทลงโทษโรงเรียนเหล่านี้ให้ถึงที่สุด รวมทั้งบังคับให้โรงเรียนเหล่านี้คืนเงินที่โกงรัฐไปให้หมดซึ่งเงินตัวนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถูกใช้ไปมากน้อยเท่าใดแล้วเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น