จริงหรือ!! ที่เขาว่าปอเนาะเป็นแหล่งบ่มเพาะโจรใต้

การศึกษาถือเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่ด้วยความแตกต่างทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และศาสนา และปัญหาด้านต่าง ๆ ที่ทับซ้อนกันอยู่จึงทำให้ที่ผ่านมาทำให้การให้โอกาสและคุณภาพในการศึกษาอาจติดขัดในหลายด้าน แต่ ณ ขณะนี้หลายฝ่ายต่างก็เห็นร่วมกันว่า การพัฒนาด้านการศึกษาจะเป็นการแก้ไขปัญหาความไม่สงบได้อย่างแท้จริงและยั่งยืนที่สุด ทั้งด้านการประกอบอาชีพ ด้านจริยธรรม การปฏิบัติต่อตนเอง ครอบครัว สังคม ตลอดจนการกินอยู่ การแต่งกาย รวมทั้งการปฏิบัติตามพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งมีวิธีการปฏิบัติที่เคร่งครัด และเป็นสิ่งจำเป็นที่มุสลิมต้องศึกษา และปฏิบัติให้ถูกต้อง ด้วยเหตุนี้ ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้จึงให้ความสำคัญกับการศึกษาด้านศาสนาเป็นสำคัญ ซึ่งจะเห็นได้จากการส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาเป็นจำนวนมาก
โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม มีต้นกำเนิดจากสถานศึกษาที่เรียกว่า “ปอเนาะ”สถาบันการศึกษาแบบดั้งเดิม สอนเรื่องศาสนาเป็นหลัก ต่อมารัฐมีนโยบายที่มุ่งพัฒนาการจัดการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อสร้างความมั่นคงในพื้นที่และนำไปสู้การประกอบอาชีพอย่างแท้จริง ทำให้เกิดการพัฒนาและจดทะเบียนเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม โดยรัฐบาลได้ให้เงินอุดหนุน และมีการนำหลักสูตรสามัญเข้าสอนควบคู่กับหลักสูตรศาสนาตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด อย่างไรก็ตามยังคงมีปอเนาะบางแห่งก็ยังคงรูปแบบการสอนศาสนาอย่างเดียวอยู่เช่นเดิม ซึ่งรัฐบาลอนุญาตให้จดทะเบียนเป็นสถานศึกษาในรูปแบบพิเศษอีกหนึ่งรูปแบบ โดยใช้ชื่อว่า “สถานศึกษาปอเนาะ”พร้อมกับให้เงินอุดหนุนบางส่วน ในความช่วยเหลือที่ทางรัฐบาลได้เข้าไปช่วยเหลืองยังมีบางสถาบันการศึกษายังคงรับเงินอุดหนุนจากกลุ่มขบวนการ ซึ่งมีต้นทุนเดิมอยู่แล้ว
#อะไร? คือสาเหตุที่คนทั่วไปและเจ้าหน้าที่รัฐ มอง“โรงเรียนปอเนาะ”หรือ“โรงเรียนสอนศาสนาเอกชน”เหล่านั้นในแง่ลบ ซึ่งจะต้องมีเหตุและผลถึงความเป็นมาจะต้องมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้มีความเชื่อแบบนั้น
เนื่องจากการจัดการเรียนการสอนของ“โรงเรียนปอเนาะ”เหมือนกับโรงเรียนประจำ กินอยู่หลับนอนอยู่ภายในโรงเรียน การควบคุมดูแลของสถาบันการศึกษาเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง อีกทั้งที่ผ่านมาการเข้าไปตรวจสอบดูแลกระทำได้ยากเพราะมีบุคคลบางกลุ่มพยายามกล่าวอ้างว่า“โรงเรียนปอเนาะ”เป็นสถานที่สอนศาสนา การเข้าไปทำการตรวจสอบเป็นการคุกคามและไม่ให้เกียรติสถานที่ เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปสอดส่อง กลุ่มขบวนการได้ฉวยโอกาสใช้“โรงเรียนปอเนาะ”บางแห่งใช้เป็นแหล่งบ่มเพาะ ซ่องสุมกำลังทำการก่อเหตุในพื้นที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่
จึงเกิดเหตุความไม่ชอบธรรมในการบริหารโรงเรียนมีให้เห็นกันหลายโรงเรียน เช่น โรงเรียนบูรพาวิทยา จ.นราธิวาส โรงเรียนญิฮาดวิทยา จ.ปัตตานี และล่าสุดโรงเรียนบากงพิทยา จ.ปัตตานี ที่มีการตรวจสอบความไม่ชอบธรรมในการบริหารจัดการของโรงเรียน มีการฉ้อโกงเงินค่าหัวนักเรียน และสถาบันดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับการฝึกอาวุธของกลุ่มโจร บางโรงเรียนปลุกฝังให้นักเรียนเกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐ และอบรมบ่มเพาะแนวคิดอิสลามแนวทางที่รุนแรงด้วย ทำให้บางโรงเรียนต้องปิดลง สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือนักเรียนทีขาดโอกาสในการหาความรู้ในการดำรงชีพในอนาคต การบริหารจัดการในสถาบันการศึกษาควรมีการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นความจริง ไม่มีการทุจริตเงินค่าหัวนักเรียน ไม่ควรรับเงินอุดหนุนจากกลุ่มขบวนการในการพัฒนาโรงเรียน
ตราบใดที่การแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ปล่อยให้ขบวนการปลูกฝังแนวความคิดที่ผิดๆให้แก่เด็กและเยาวชนในสถานศึกษาต่อไป มีการสืบทอดส่งต่อความสำนึกร่วมไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน ความสงบสุขที่ทุกคนต่างเรียกหาก็ยังไม่เกิด ผู้คนต้องบาดเจ็บล้มตายอีกกี่ศพ สื่อให้เห็นถึงเบื้องลึกเบื้องหลังการปลูกฝังความเกลียดชังต่อเจ้าหน้าที่รัฐ รวมไปถึงรัฐไทยมีการปูพื้นมาตั้งแต่เล็กในโรงเรียนสอนศาสนาที่ยากต่อการตรวจสอบ เพราะฉะนั้นถึงเวลาหรือยัง!! ที่จะต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุด้วยการจัดระบบโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สามารถตรวจสอบได้ สามารถเทียบเท่ากันเหมือนกับต่างพื้นที่ และมีความโปร่งใสตอบโจทย์ต่อสังคมได้โดยไม่มีข้อกังขา!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น