2 พฤษภาคม 2561

#จริงหรือมั่ว!! ก่อเหตุเดือนรอมฏอนได้บุญหรือได้บาป??



ศาสนาอิสลาม เป็นศาสนาที่เรียกร้องความสันติสุข และการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสมานฉันท์ บนพื้นฐานความรัก ความเอื้ออาทร ความถูกต้อง และความเป็นธรรม แต่มีคำถามอยู่ตลอดว่า การก่อเหตุช่วงเดือนรอมฏอน ได้บุญหรือบาป? เป็นคำถามที่ไม่น่ามีขึ้นในหมู่พี่น้องมุสลิมในบ้านเรา แต่ก็ได้ยินทุกปี โดยเฉพาะในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา หรือแม้กระทั่งรอมฎอนปีนี้ก็ยังได้ยินได้อ่านพบ แท้จริงแล้วเดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งการถือศีล ศึกษาพระคัมภีร์สำหรับชาวมุสลิม และวิงวอนขออภัยโทษถึงความ
ิดที่ผ่านมาจากพระผู้เป็นเจ้า ขอให้ได้รับการนำทางที่ถูกต้องและให้รอดพ้นจากความชั่วร้าย 

แต่...สมุนกลุ่มแสวงหาผลประโยชน์บนหน้าแผ่นดิน บนคราบน้ำตาของประชาชน ผู้บริสุทธิ์ อย่าง กลุ่มขบวนการเปรียบเสมือนซาตานในคราบมนุษย์ มุสลิมสุดโต่ง ได้ใช้เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการระดมพล ก่อเหตุร้ายเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ และได้บิดเบือนว่าจะได้รับบุญเพิ่มเป็นหลายเท่า ซึ่งชาวมุสลิมทั่วไปไม่ได้เห็นด้วยกับการตีความแบบนี้ แต่กลุ่มหัวสุดโต่งอย่าง กลุ่มขบวนการ กลับใช้การตีความประวัติศาสตร์ศาสนา สร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่ม โดยไม่ยำเกรงต่อพระผู้เป็นเจ้า หลอกลวงมุสลิมด้วยกัน แต่คิดๆ แล้ว ก็เหมือนหลอกใช้ หรือหลอกมุสลิมเราให้ไปตายแทน เพียงเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มเพียงอย่างเดียว ไม่มีการยำเกรงต่อพระผู้เป็นเจ้า แม้จะอยู่ในเดือนอันศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม

ยืนยันได้ว่าคำหลอกลวงบิดเบือนของกลุ่มขบวนการ ผู้นำพาความชั่วร้าย และเป็นผู้ชักจูงมวลมนุษย์

ปในทางที่ผิด เนื่องจากความคิดจุดมุ่งหมายของกลุ่มนี้ คือการสร้างความหวาดกลัว การก่อเหตุนองเลือดในช่วงเวลาของการถือศีลเช่นนี้ จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมได้รุนแรงมากกว่าในช่วงเวลาปกติ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแลกมาด้วยความชอบธรรมของกลุ่มที่จะถูกตั้งคำถามจากชาวมุสลิมด้วยกันมากขึ้น ว่าเหตุใดผู้ที่เรียกตนเองว่ามุสลิม จึงเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ผู้ส่งเสริม สนับสนุน ให้เราได้ปฏิบัติศาสนกิจ รวมถึงพี่น้องมุสลิมด้วยกันในเดือนแห่งการแสวงบุญ

ในคัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวเรื่องการฆ่าผู้บริสุทธิ์ไว้ว่า “แท้จริงผู้ใดฆ่าชีวิตหนึ่งโดยมิได้เป็นการชดเชยอีกชีวิตหนึ่ง หรือมิใช่เนื่องจากการบ่อนทำลายในแผ่นดิน ก็เหมือนกับเขาได้ฆ่ามนุษย์ทั้งหมด และผู้ใดไว้ชีวิต ก็เหมือนว่าได้ไว้ชีวิตมนุษย์ทั้งมวล” (อัล-มาอิดะฮ์ 32)

และในคัมภีร์อัลกรุอานยังได้กล่าวเรื่องบาปและความผิดที่ยิ่งใหญ่ และถือเป็นความชั่วร้ายที่สุดทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮฺ รองลงมาจากการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ คือการฆ่าชีวิตที่บริสุทธิ์ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า “และบรรดาผู้ที่ไม่วิงวอนขอพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮ และพวกเขาไม่ฆ่าชีวิตซึ่งอัลลอฮทรงห้ามไว้เว้นแต่เพื่อความยุติธรรม และพวกเขาไม่ผิดประเวณี และผู้ใดกระทำเช่นนั้นจะได้พบกับความผิดอันมหันต์ การลงโทษในวันกิยามะฮฺจะถูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าสำหรับเขา และเขาจะอยู่ในนั้นอย่างอัปยศ” (อัลฟุรกอน: 68-69)

อิสลามเรียกร้องให้อยู่ในหนทางแห่งสันติเรียกร้องให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติท่ามกลางความแตกต่างเรื่องเชื้อชาติ เพศ สีผิว หรือแม้แต่ศาสนา ดังในคัมภีร์อัลกุรอานที่กล่าวว่า “และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใดนอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่ประชาชาติทั้งหลาย (อัลอันบียาอ์ : 2:107)

“รอมฎอน” เดือนแห่งความบริสุทธิ์ เดือนแห่งความดีงาม มุสลิมเราทุกคนปฏิบัติศาสนกิจในเดือน “รอมฎอน” นี้อย่างเคร่งครัด ตามบทบัญญัติของศาสดา ดังนั้นในเดือนรอมฎอนจึงไม่ควรที่จะมีการทำลายล้าง และเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์เกิดขึ้น เพื่อความสงบสุขและสันติภาพในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้บ้านเรา เพราะอิสลามไขว่คว้าสันติภาพ ความเสมอภาค ความเท่าเทียม และความยุติธรรม อินชาอัลลอฮฺ....

#การก่อเหตุช่วงรอมฏอน ได้บุญหรือบาป? ? ?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น