27 กรกฎาคม 2560

BRN กับแผนชั่วครอบงำคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดชายแดนใต้

"นายหัวครก"


คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด โดยในพระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม หมวด 4 ว่าด้วยคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด มาตรา 23 บัญญัติว่า จังหวัดใดมีราษฎรนับถือศาสนาอิสลามและมีมัสยิดตามมาตรา 13 ไม่น้อยกว่า 3 มัสยิด ให้คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยประกาศให้จังหวัดนั้นมีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดคณะหนึ่ง ประกอบด้วยกรรมการมีจำนวนไม่น้อยกว่า 9 คนแต่ไม่เกิน 30 คน ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 33 จังหวัด

กระบวนการคัดเลือกในปีนี้ซึ่งจะหมดวาระลง อาจจะมีจังหวัดที่มีมัสยิดตามมาตรา 13 ไม่น้อยกว่า 3 มัสยิด เพิ่มขึ้นจากการเร่งสร้างมัสยิดในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทยเพื่อให้เข้าเงื่อนไขดังกล่าว นั่นแสดงว่าจะมีจังหวัดที่จะต้องมีกระบวนการคัดเลือกคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดมากกว่า 33 จังหวัดแน่นอน

กระบวนการคัดเลือกคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 ซึ่งปลายปีนี้จะครบกำหนดวาระ 6 ปี ซึ่งเมื่อตำแหน่งกรรมการอิสลามประจำจังหวัดว่างลงก่อนสิ้นวาระให้มีการคัดเลือกกรรมการแทนภายใน 90 วันนับแต่วันที่ตำแหน่งว่าง

ส่องโฟกัสกระบวนการคัดเลือกที่จะเกิดขึ้นปลายปี 2560 ในการสรรหาคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดปัญหาความรุนแรง อีกทั้งพื้นที่แห่งนี้ส่วนใหญ่จะมีพี่น้องมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เค้าลางความรุนแรงเริ่มปรากฏบ่งชี้ถึงการแข่งขันค่อนข้างดุเดือด ความเคลื่อนไหวเงียบๆ ก่อนหน้านี้แฝงถึงความน่ากลัว

เมื่อมีการแข่งขันที่สูงแต่ละฝ่ายจึงจะต้องกระทำทุกวิถีทางเพื่อส่งคนของตัวเองเข้าไปมีบทบาทเป็นคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ผลจากการแข่งขันครั้งที่แล้วใครได้ ใครตกก็เป็นที่ทราบกันดี จากการส่งแคนดิเดตทำการต่อสู้ใน 3 จังหวัด จำนวน 6 ทีม

ปรากฏการณ์บ่งชี้ถึงความรุนแรงกระบวนการคัดเลือกคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มฉายแววให้เห็น เมื่อคนร้ายทำการก่อเหตุยิง นายอาแว  เตาะซาตู หรืออุสตาสดารีอุสตาสสอนศาสนา และเป็นเจ้าของโรงเรียนมูลนิธิชุมชนอิสลาม บ้านปะแดลางา หมู่ที่ 5 ตำบลตะลุปุโย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา

จากข่าวเชิงลึกพบว่าอุสตาสดารีซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่เปิดเผยตัวสนับสนุนทีมคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานีทีมหนึ่งซึ่งอยู่คนละขั้วกับทีมกลุ่มขบวนการ BRN ให้การหนุนหลัง

กลุ่มขบวนการ BRN มีความต้องการอย่างยิ่งยวดที่จะส่งคนของตัวเองเข้าไปเป็นคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ให้การสนับสนุนคนของตัวเองทุกวิถีทางเพื่อยึดองค์กรที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนศาสนา เมื่อพบผู้ที่ประกาศตัวอย่างเปิดเผยอย่างอุสตาสดารี มีหรือ? กลุ่มขบวนการ BRN จะปล่อยให้มีชีวิตรอดเป็นก้างขวางคอ

ใคร? คือคนของกลุ่มขบวนการ BRN ลองไปสอบถามรองคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ซึ่งท่านอาจจะรู้และมีข้อมูลว่าเป็นใคร? กระบวนการคัดเลือกคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานีปลายปีต้องติดตามว่ากลุ่มที่ขบวนการหนุนหลังจะได้รับการคัดเลือกหรือไม? และจะเกิดอะไรขึ้นหากคนกลุ่มนั้นได้เข้าไปทำหน้าที่

การแทรกแซงของกลุ่มขบวนการโดยการส่งคนของตัวเองเข้าไปในองค์กรต่างๆ ไม่ได้มีแค่เฉพาะคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดแต่เพียงเท่านั้น ในความเป็นจริงขบวนการ BRN ยังส่งคนของตัวเองเป็นนักการเมืองท้องถิ่น แฝงตัวในองค์กรภาคประชาสังคมเพื่อทำการขับเคลื่อนงานการเมือง

คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดไม่ได้ทำหน้าที่เฉพาะเป็นผู้นำองค์กรศาสนาในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทแก้ไขปัญหาหลากหลายในท้องถิ่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเยาวชน ปัญหายาเสพติด ปัญหาเกี่ยวกับอาหารฮาลาล รวมทั้งสานสัมพันธ์กับหน่วยงานต่างๆ จึงถือเป็นกลไกสำคัญในการร่วมสถาปนาสันติสุขให้เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่หากเป็นคนของขบวนการ BRN ล่ะ!!...อะไร? จะเกิดขึ้น...ฝากให้คิดเล่นๆ กันค่ะ

---------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น