คณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาล
หรือ ครม.ส่วนหน้า ประชุมครั้งที่ 1/2560
เพื่อขับเคลื่อนและติดตามการแก้ปัญหาชายแดนใต้ เตรียมขยายพื้นที่ต้นแบบ 60 ตำบล บูรณาการแผนให้สอดคลองยุทธศาสตร์ 20 ปี
เพิ่มอีก 10 โครงการสามเหลี่ยมมั่นคงฯงบพันล้าน เผย 2 แนวทางเพิ่มพนักงานสอบสวนคดีความมั่นคง
เร่งเพิ่มประสิทธิภาพงานปรับทัศนคติ งานสันติวิธีและงานสร้างสุข พร้อมทำ 3 เรื่องเร่งด่วนด้านพัฒนาคุณภาพการศึกษา
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ห้องประชุมวิวรรธน์ ปฐมภาคย์
กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร
รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงกลาโหม/หัวหน้าคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาล
เป็นประธานการประชุมผู้แทนพิเศษของรัฐบาลครั้งที่ 1/2560
เพื่อขับเคลื่อนและติดตามงานเพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเข้าร่วมประชุม ได้แก่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค
4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.)
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร
ตำรวจ เข้าร่วมประชุมพร้อมสรุปภาพรวมการทำงานในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ขยายตำบลต้นแบบอีก
60 ตำบล
พล.อ.อุดมเดช
เปิดเผยหลังการประชุมว่า
ได้เน้นยำในหลายเรื่องที่ต้องเดินหน้าต่อไปที่ครอบคลุมกับกลุ่ม 7 ภารกิจงานของคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาล
มีการพูดคุยถึงโครงการเสริมสร้างงานด้านความมั่นคงโดยการทำให้ชุมชนเข้มแข็ง เช่น
การเสริมสร้างโครงการญาลันนันบารู ที่เป็นประโยชน์ในการปราบปรามยาเสพติดพร้อมขยายไปยังชุมชนอื่นๆต่อไป
“รวมถึงการทำ “ตำบลต้นแบบ” โดยเราวางแผนขยายตำบลต้นแบบ
ซึ่งหากปีนี้ได้รับงบประมาณเพิ่มเติมก็จะขยายอีกใน 60 ตำบล
ซึ่งถือเป็นขีดความสามารถที่ทำได้” พล.อ.อุดมเดช กล่าว
พล.อ.อุดมเดช
ยืนยันด้วยว่า ผู้แทนพิเศษของรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับงบประมาณ
เพราะเป็นเพียงหน่วยหารือกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในการร่วมขับเคลื่อนงาน
บูรณาการแผนให้สอดคลองยุทธศาสตร์
20 ปี
นายภาณุ
อุทัยรัตน์ เลขานุการคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาล กล่าวว่า
ผลสรุปจากการประชุมว่าด้วยการจัดทำตารางแผนงานให้ประสานสอดคล้องกันตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
โดยนำยุทธศาสตร์และแนวนโยบายต่างๆในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
มาประมวลและจัดทำแผนงานร่วมกันให้สอดคล้องกับแนวนโยบายยุทธศาสตร์ของชาติ 20 ปี นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนของ
กอ.รมน. เพื่อบูรณาการงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรอบไตรมาส
และนำไปสู่การกำหนดเป้าหมายของงานที่ชัดเจน
นายภาณุ
กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังห่วงใยเรื่องการจัดการศึกษาเกี่ยวกับภาษาไทย
โดยพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์
ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้การจัดการศึกษามีประสิทธิมากขึ้น
เพิ่มอีก 10 โครงการสามเหลี่ยมมั่นคงฯ งบพันล้าน
นายภาณุ
กล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ เรื่องงบประมาณในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ในส่วนงบปกติจะเป็นแผนงานที่บูรณาการจำนวน 19 โครงการ
และยังได้พิจารณาเห็นชอบเพิ่มเติม 10
โครงการในเรื่องการพัฒนาพื้นที่พิเศษ “สามเหลี่ยมมั่นคง
มั่งคั่ง ยั่งยืน”งบประมาณทั้งหมด 1,072 ล้านบาท
“ถือเป็นโครงการสำคัญที่คณะผู้แทนพิเศษได้ดำเนินการ
3 เรื่อง ในเรื่องที่ช้าเราทำให้เร็ว ซึ่งปรากฏผลงานในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมาในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ยากเราทำให้ง่าย” นายภาณุ กล่าว
นายภาณุ
กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานการลงทุนในรูปแบบ one stop
service ที่ศอ.บต. โดยภาคเอกชนแสดงความสนใจลงทุนในพื้นที่โครงการ
ทั้งโรงงานแปรรูปอาหารทะเล แปรรูปลองกอง ปาล์มน้ำมันและโรงไฟฟ้าชีวมวล
แนวทาง
เพิ่มพนักงานสอบสวนคดีความมั่นคง
พล.ต.ท.ไพฑูรย์
ชูชัยยะ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล กล่าวว่า ที่ประชุมได้พูดถึงการเพิ่มประสิทธิภาพพนักงานสอบสวนคดีความมั่นคง
เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนพนักงานสอบสวนคดีความมั่นคง
จึงพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยให้แยกพนักงานสอบสวนคดีความมั่นคงออกมา
ซึ่งควรจะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และอยู่ในตำแหน่งระดับสารวัตรขึ้นไป โดยจะมีค่าตอบแทนเพิ่มให้เป็นกรณีพิเศษ
พล.ต.ท.ไพฑูรย์
พร้อมกันนี้ได้ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมจัดหาพนักงานสอบสวนมาปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ทดแทนกลุ่มเดิมที่จะครบกำหนดการช่วยราชการโดยเร่งด่วน
เพื่อมิให้เกิดปัญหาด้านการอำนวยความยุติธรรมในพื้นที่
สำนักสารสนเทศและประชาสัมพันธ์
ศอ.บต.รายงานด้วยว่า ในช่วงบ่าย พล.อ.อุดมเดช
และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจและมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบอุทกภัย
ประกอบด้วย นายสุริยา มีนา บ้านเลขที่ 75 ม.5 ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเสาล้มทับบ้านเสียหาย โดยมีหน่วยงานรัฐได้ซ่อมแซมให้แล้ว
จากนั้นได้เดินทางไปยังบ้านนางแฉล้ม
ยอดสร้อย บ้านเลขที่ 17/1 ม.1 บ้านยอดมะพร้าวต้นเดียว ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก
และ บ้านนางแวมีเนาะ กูเดร์ดาเก็ง บ้านเลขที่ 62/1
บ้านท่ากูโบ ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก ซึ่งได้รับความเสียหายมากประกอบกับตัวบ้านมีสภาพชำรุดทรุดโทรมและอาศัยอยู่เพียงลำพัง
โดยหน่วยงานภาครัฐได้เข้าไปช่วยเหลือซ่อมแซมแล้ว
เพิ่มประสิทธิภาพ
งานปรับทัศนคติ งานสันติวิธี งานสร้างสุข
ทั้งนี้ในใบแถลงข่าวการประชุมผู้แทนพิเศษของรัฐบาลครั้งที่
1
/2560 ระบุเนื้อหาจากการประชุมด้วย ดังนี้
เรื่องงานเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐและการขับเคลื่อนนโยบายฯ
ได้แก่
งานปรับทัศนคติและความเชื่อ
เป็นการแก้ปัญหาการบ่มเพาะซึ่งเกิดจากการบิดเบือนหลักคำสอนศาสนาและเป็นต้นตอของความรุนแรง
ด้วยการรณรงค์ให้ความรู้และปฏิบัติตามหลักคำสอนที่ถูกต้อง
งานสันติวิธี
เป็นแนวทางของการแก้ปัญหาความรุนแรง
ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้ที่คิดต่างและผู้หลงผิดออกมามอบตัวกับทางการ
โดยมีแบบแผนรองรับที่เหมาะสม ทั้งด้วนกระบวนการทางกฎหมาย
การจัดสถานที่รองรับในระยะการปรับสภาพและฟื้นฟูหลังมอบตัว
และการดำรงชีวิตอยู่ได้ในสังคม/ชุมชน
งานการสร้างความเป็นอยู่ดี
มีสุข มุ่งเน้นหลักการ มีส่วนร่วม ของคนในชุมชนในการแก้ปัญหาของตนเอง
ซึ่งเป็นงานด้านพัฒนา ควบคู่กันไปงานด้านความมั่นคง
ทำให้เกิดการรวมกลุ่มของคนในชุมชน
ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหาที่มีความต่อเนื่องและยั่งยืน (ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลที่รับผิดชอบ
คือ พล.อ.จำลอง คุณสงค์)
เรื่องเร่งด่วนด้านพัฒนาคุณภาพการศึกษา
เรื่องการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ 3 เรื่อง คือ
1.เรื่อง
คนไทยทุกคนจะต้องมีความรู้และทักษะการใช้ภาษาไทยขั้นพื้นที่ฐานได้อย่างดี ฟัง พูด
อ่าน เขียน ในฐานะที่เป็นคนไทย จึงควรที่จะมีอัตลักษณ์ทางภาษาที่เป็นภาษาเดียวกัน
ส่วนภาษาท้องถิ่นที่มีอยู่แล้ว ก็เป็นภาษาที่สองเหมือนกับภาคอื่นๆ
2.เรื่อง
ทำอย่างไรที่จะทำให้การศึกษาของคนในพื้นที่ไม่เกิดการสูญเปล่าทางการศึกษา หมายถึง
ทุกคนต้องได้รับวุฒิบัตรทางการศึกษามาตรฐานทางการศึกษาที่กำหนดไว้
เพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาต่อไปในระดับสูงๆขึ้นไป หรือ
นำไปใช้ในการสมัครเข้าทำงานหรือประกอบอาชีพส่วนตัว เพื่อพึ่งพาตนเองได้
3.เราจะจัดการศึกษาอย่างไรเพื่อให้โรงเรียนทุกชนิด
– ทุกประเภทในพื้นที่ที่ต่ำกว่าระดับอุดมศึกษามีมาตรฐานเดียวกัน
เช่น เป็นการศึกษาวิชาสามัญ 80% และการศึกษาวิชาเลือก 20%
ตามความสมัครใจ
ซึ่งอาจจะเลือกศึกษาด้านศาสนาหรือวิชาชีพที่แต่ละคนสนใจ
ก็ฝากให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(สพฐ.)และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยกันสร้างกันต่อไป (ผู้แทนรัฐบาลที่รับผิดชอบคือ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์)
---------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น