30 มิถุนายน 2560

โจรใต้ระส่ำ!! ขาดแคลนวัตถุระเบิดใช้ก่อเหตุต้องหนีหัวซุกหัวซุน


โจรใต้ระส่ำหนัก หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการปิดท่าข้ามริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย 6 จุด ส่งผลขาดแคลนวัตถุระเบิดนำเข้าจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านใช้ในการก่อเหตุ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเชิงรุกบังคับใช้กฎหมายต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุน

นโยบายปิดด่านชายแดนที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 6 จุด ซึ่งเป็นท่าข้ามริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก  จ.นราธิวาส เพื่อทำการสกัดกั้นการนำเข้าสิ่งผิดกฎหมาย แต่ที่เป็นประเด็นหลักเพื่อจำกัดอิสรเสรีของโจรใต้ในการเดินทางเข้าออก ซึ่งพบว่าที่ผ่านมามีการลักลอบนำเข้าวัตถุระเบิดที่มีการประกอบในฝั่งมาเลย์เข้ามาทำการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในฝั่งไทย หลังก่อเหตุข้ามฝั่งหนีการจับกุมไปกบดานเงียบในประเทศมาเลเซีย

จากนโยบายการปิดด่านชายแดนซึ่งเป็นท่าข้ามริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ส่งผลดีต่อภาพรวมในการแก้ปัญหาพบว่าสถิติการก่อเหตุลดลง กลุ่ม ผกร.ในฝั่งไทยไม่กล้าทำการก่อเหตุซึ่งยากในการหลบหนี ส่วนกลุ่ม ผกร.ในฝั่งมาเลย์ไม่สามารถเดินทางเข้า-ออกได้ตามปกติ อีกทั้งการประกอบระเบิดในฝั่งมาเลย์ยากต่อการลักลอบขนเข้ามาทำการก่อเหตุ

ส่วนการปฏิบัติการเชิงรุกในการบังคับใช้กฎหมายติดตามจับกุมบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่หลายๆ จุด ส่งผลให้กลุ่ม ผกร.ต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุนละทิ้งฐานปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่กดดันจำกัดพื้นที่ขาดอิสระในการเคลื่อนไหว อย่างเช่นกรณีเจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าพิสูจน์ทราบบริเวณพื้นที่ป่าภูเขา ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เกิดการปะทะคนร้ายบาดเจ็บหลบหนีเข้าป่าไป

จะเห็นได้ว่าจากนโยบายการปิดด่านชายแดนซึ่งเป็นท่าข้ามริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ประกอบกับการปฏิบัติการเชิงรุกในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ได้ส่งผลดีต่อประชาชนโดยตรง และส่งผลดีต่อภาพรวมต่อสถานการณ์ สถิติเหตุการณ์ลดลง ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอันเป็นผลมาจากการกระทำของกลุ่ม ผกร.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น