ฮับบะตุซเซาดาอ์ (หรือที่คนไทยรู้จักในนาม “เทียนดำ”) เป็นชื่อสมุนไพรชนิดหนึ่งชาวอียิปต์เรียกว่า “ฮับบะตุลบารอกะฮฺ” หรือ อัลกัมมูนอัลอัสวัด (ยี่หร่าดำ) ชาวยะมันเรียกว่า “เกาฮเฏาะฮ” ชาวอิหร่าน เรียกว่า “ชุวัยนิช” หรือ “ชุนิช” ในภาษาเปอร์เซีย และในเมืองไทยเป็นที่รู้จักกันดีเรียกว่า “เทียนดำ” ลักษณะของมันนั้น เมล็ดสีดำคล้ายงา รสชาติร้อนและขมเล็กน้อย
การแพทย์สมัยก่อนนั้น นำฮับบะตุซเซาดาอ์มาเป็นเป็นส่วนประกอบในการบำบัดโรคทุกชนิดโดยอาศัยหะดีษ ซึ่งรายงานจากอบีหุรอยเราะห์รอฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า แท้จริงท่านรอซูลซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “จำเป็นสำหรับท่านทั้งหลาย คือ ฮับบะตุซเซาดาอ์ เพราะแท้จริงมันเป็นยาบำบัดทุกโรค เว้นแต่ความตาย” บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ และมุสลิม
ประโยชน์ของฮับบะตุซเซาดาอ์ นั้นมีมากมาย รับประทานทุกวันทำให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถบำบัดรักษาได้ทุกโรค
ฮับบะตุซเซาดาอ์ (ยี่หร่าดำ) ยังมีประโยชน์ในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับความเย็นทุกชนิด ในโรคที่เกิดจากความร้อนแห้ง มันจะช่วยเพิ่มพลังให้กับยาที่เย็นและชื้นให้เข้าสู่ตัวโรคได้อย่างรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
ยี่หร่าดำยังเป็นยาขับคมขจัดสะเก็ดในโรคชันนะตุ มีประโยชน์ในโรคเรื้อนและในไข้ที่มีเสลดมากมีเสมหะมาก จะช่วยเปิดทางที่อุดตันได้ ช่วยให้ลมเดินสะดวก บรรเทาความชื้นและลมในกระเพาะ ถ้าหากนำมาบดและนวดกับน้ำผึ้งและผสมน้ำร้อนดื่มจะช่วยละลายนิ่วในไตและต่อมลูกหมาก ช่วยขับปัสสาวะ และประจำเดือน ช่วยเพิ่มน้ำนม ถ้าดื่มเป็นประจำหลาย ๆ วัน ถ้าหากถูกทำให้ร้อนโดยผสมกับน้ำส้มสายชูแล้วนำมาทาจะช่วยขจัดเม็ดชันนะตุได้
น้ำมันของยี่หร่าดำมีประโยชน์ในการรักษา พิษงูกัด รักษาหูด ถ้าผสมน้ำดื่มหนึ่งมิษกอล (25กรัม) จะช่วยรักษาโรคเหนื่อยหอบหายใจลำบากได้ การประคบด้วยยี่หร่าดำจะช่วยรักษาโรคปวดศรีษะจากความเย็น ถ้าหากนำมาผสมกับน้ำส้มสายชูและนำมาแปะที่ฝีหรือสิวจะช่วยดูดหนองได้ หากนำมาบดรวมกับน้ำส้มสายชูและทาให้กับคนที่เป็นโรคเรื้อนหรือจุดด่างดำที่ผิวหนัง หรือศรีษะมีรังแคมากจะช่วยรักษาได้
คุณค่าที่ได้รับจากฮับบะตุซเซาดาอ์ นั้นถูกผสมผสานในการรักษาโรคเป็นอย่างดีและโรคจะทุเลาอย่างน่าแปลกใจ ดังนั้น มันจึงมีประโยชน์และมีแร่ธาตุที่ร่างกายของมนุษย์ต้องการ เช่น ฟอสเฟต, ธาตุเหล็ก, ฟอสฟอรัส, คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน และมีสารเบต้าแคโรทีน ทำปฏิกิริยาต่อต้านมะเร็ง
ในวงการแพทย์มุสลิมพบว่าฮับบะตุซเซาดาอ์ นั้นเป็นยาที่มีประโยชน์มากและสิ่งที่พวกเขามั่นใจก็คือ สิ่งที่ท่านรอซูล ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้บอกไว้ถึงสรรพคุณของมัน.
แหล่งข้อมูล : จากหนังสือ การแพทย์ตามแนวทางศาสดามุฮัมมัด ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เขียนโดย
อิบนิกอยยิม อัลเญาซียะห์ แปลโดย นพ.กษิดิษ ศรีสง่า จัดพิมพ์โดย แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)
บทความจาก : สุขสาระ ฉบับที่ 97 ประจำเดือนมกราคม 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น