28 ธันวาคม 2560

เร่งไล่ล่า!! 2 แกนนำโจรใต้ สมุนอีก 7 ยิงถล่มรถทหารนราฯ



เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2560 13:51 น. ที่ศาลาเอนกประสงค์ วัดบางนรา ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.ท.เกื้อกูล อินนาจักร์ แม่ทัพน้อย 4 และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ อาสาสมัครทหารพรานกำจร ตันมา อายุ 35 ปี ตำแหน่งภาคสนาม พลปืนเล็ก ชุดปฏิบัติการณ์ที่ 1 กองร้อยทหารพราน 4912 กรมทหารพรานที่ 49 ที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายซุ่มยิงก่อนวางระเบิดซ้ำ ขณะเดินทางพร้อมเพื่อนทหารจะไปปฏิบัติภารกิจ เหตุเกิด ม.3 บ.บิโล๊ะ ต.ซากอ อ.ศรีสาคร ส่งผลให้ อส.ทพ.กำจรซึ่งถูกกระสุนปืนไปเสียชีวิตที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ส่วนเพื่อนทหารอีก 3 นายคือ ส.อ.ธนกร ตันนิสัย ส.อ.วิษณุ มือสันทัด และ อส.ทพ.วิษณุ ชำนาญนา ได้รับบาดเจ็บ นอนรักษาตัวที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์และมีการมอบเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งหมดประมาณกว่า 3 ล้านบาทหลังจากเสร็จพิธี ได้มีการเคลื่อนศพ อส.ทพ.กำจร ขึ้นเครื่องบิน ซี 130 ของกองทัพอากาศที่หมวดบินเฉพาะกิจ ภาคใต้ ท่าอากาศยานนราธิวาส ไปลงที่สนามบิน บน.41 จ.เชียงใหม่ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดที่วัดบ้านปาง ม.8 ต.หนองบัว อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่
สำหรับการติดตามไล่ล่ากลุ่มก่อเหตุในครั้งนี้ ทางด้าน พ.อ.จรูญ จตุรงค์ ผบ.กรมทหารพราน 49 เปิดเผยว่า ล่าสุดจากการนำกำลังเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายสำคัญใน 3 หมู่บ้าน คือ บ.บิโล๊ะ ต.ซากอ บ.ดาฮง ต.เชิงคีรี และ บ.จือแรง ต.ตะมะยูง อ.ศรีสาคร จำนวนกว่า 20 เป้าหมาย เพื่อที่จะควานหาตัว 2 แกนนำปฏิบัติการณ์ คือนายอับดุลการี และนายอัมรัน ผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญาคดีความมั่นคงในพื้นที่ พร้อมสมุนอีก 7 คน ที่ร่วมก่อเหตุอย่างอุกอาจในครั้งนี้ โดยได้มีการเชิญตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 4 คน มาทำการสอบปากคำขยายผลเครียดที่ฐานปฏิบัติการณ์แห่งหนึ่งในพื้นที่

27 ธันวาคม 2560

สื่อนอกตีข่าวยอดตาย 3 จังหวัดชายแดนใต้ปีนี้ สถิติต่ำสุดในรอบ 13 ปี




เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.60 สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของไทยในปี 2560 อยู่ที่ราว 235 ราย นับเป็นยอดผู้เสียชีวิตตลอดปีที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่เริ่มมีความรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อ 13 ปี ที่แล้ว

ข้อมูลจาก ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้เผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ในปีนี้อยู่ที่ราว 235 ราย นับเป็นยอดผู้เสียชีวิตในรอบปีที่ต่ำที่สุด โดยในปี 2559 มีผู้เสียชีวิต 309 ราย และจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงเรื่อยๆ นับจากปี 2557 เปรียบเทียบกับปี 2550 ที่มีความรุนแรงสูงสุด ยอดผู้เสียชีวิต 892 ราย

โฆษกศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าวว่า เราได้เห็นสถานการณ์ลดลงในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา และปีนี้ยอดตายลดลงต่ำสุดหากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงสำคัญเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้โดยทางศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ยังระบุว่า จำนวนยอดผู้เสียชีวิตที่ลดลง อาจเกี่ยวกับความพยายามในการเดินหน้าการพูดคุยรวมไปถึงโครงการการพัฒนาต่างๆ ของรัฐ

รายงานระบุว่า เหยื่อผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นพลเรือนทั้งชาวพุทธและมุสลิม จากเหตุระเบิดที่แทบจะเกิดขึ้นรายวัน โดยตลอด 13 ปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วเกือบ 7,000 ราย โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างกล่าวหาว่าทั้งกลุ่มก่อความไม่สงบและเจ้าหน้าที่รัฐ ต่างมีส่วนในการเพิ่มการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่

ที่มา:ข่าวสดออนไลน์

ศาลจังหวัดยะลาอนุมัติหมายจับ! “4 คนร้าย” เผารถทัวร์เบตง-กทม.



ศาลจังหวัดยะลา อนุมัติหมายจับ 4 ผู้ก่อเหตุปิดล้อมเผารถทัวร์เบตง-กรุงเทพ ด้านพลตำรวจเอกศรีวราห์ ยืนยันเป็นคดีก่อการร้าย ไม่เกี่ยวข้องความขัดแย้งธุรกิจในพื้นที่
พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ จ.ยะลา เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีความมั่นคง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งล่าสุดศาล จ.ยะลา อนุมัติหมายจับ ผู้ร่วมก่อเหตุปิดล้อมเผารถทัวร์ วิ่งระหว่างเบตง-กรุงเทพ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา จำนวน 4 คน ประกอบด้วย 1.นายอับดุลเลาะ ตาเปาะโต๊ะ 2.นายอาหะมัด ลือแบซา 3.นายซามีม ซะแม 4.นายมูฮำหมัด หะยีสาเมะ ในข้อหาสมคบก่อการร้าย เป็นอั้งยี่และซ่องโจร

โดยทั้ง 4 คน มีประวัติก่อคดีความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ และมีหมายจับติดตัวจำนวนมาก เช่น นายอับดุลเลาะ ตาเปาะโต๊ะ เคยก่อเหตุลอบวางระเบิดนายอิสรา ทองธวัช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา จนเสียชีวิตเมื่อปี 52 มาแล้ว หรือนายอาหะมัด ลือแบซา ระดับปฏิบัติการในอำเภอบันนังสตา ที่เคยลอบวางระเบิดทีมงานพลตำรวจเอกสมเพียร เอกสมญา หรือจ่าเพียร ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนติดตาม
ทั้งนี้พลตำรวจเอกศรีวราห์ กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบคดีเผารถทัวร์ พบว่าผู้ร่วมก่อเหตุประมาณ 30 คน โดยทั้ง 4 คน ที่มีหมายจับนั้น อาจร่วมก่อเหตุกับกลุ่มคนร้ายหน้าใหม่ ซึ่งเป็นคดีก่อการร้าย ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งธุรกิจทัวร์ ตามที่สื่อนำเสนอแน่นอน

ขณะที่เมื่อวานนี้ ศาลได้อนุมัติหมายจับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบรวม 49 หมายจับ แบ่งเป็นศาลจังหวัดปัตตานี จำนวน 12 หมายจับ และศาลจังหวัดยะลา จำนวน 37 หมายจับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคดีค้างเก่า ที่ยังไม่หมดอายุความ นอกจากนี้พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยังรับมอบผู้ต้องหา คดีร่วมกันฆ่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สังกัดองค์การทหารผ่านศึกเหตุเมื่อปี 2554 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี จำนวน 3 คน ที่อยู่ระหว่างการควบคุมตัวของทหาร ประกอบด้วย นายซูกิบฟรี สาและ นายรอกิ แดมอ และนายอิสะมาแอล มะแซ

26 ธันวาคม 2560

กลุ่มคนร้ายลอบระเบิดเสาไฟฟ้า ต้องการทำลายเศรษฐกิจเมือง"เบตง"

จากเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา เหตุคนร้ายก่อเหตุลอบระเบิดเสาไฟฟ้าริมถนนสาย 410 และในเวลาต่อมายังได้รับแจ้งว่ายังก่อเหตุลอบระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูง บนเทือกเขาบ้านบัวทอง ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา โครงเหล็กเสาไฟฟ้าได้รับความเสียหายเล็กน้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ คนร้ายได้ก่อเหตุลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้า ริมถนนสาย 410 บริเวณบ้าน กม.23- กม.26 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ทำให้เสาไฟฟ้าได้รับเสียหายจำนวน 5 ต้นด้วยกัน ส่งผลให้ในพื้นที่บริเวณโดยรอบกระแสไฟฟ้าดับ

จากนั้นประมาณ 22.00 น. ชาวบ้านได้ยินเสียงระเบิดขึ้นในพื้นที่ ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา มากกว่า 4 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจะเข้าตรวจสอบได้เนื่องจาก ไม่ทราบพิกัด และทิศทางที่มาของเสียงได้ชัดเจน

จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและฝ่ายปกครองได้สนธิกำลังเข้าสำรวจพื้นที่เกิดเหตุ ที่พบว่า เสาไฟฟ้าแรงสูงที่เป็นแนวบริเวณเทือกเขาหลังหมู่บ้าน ตั้งแต่ต้นลำดับที่ 16-18 รวมจำนวน 3 ต้น ในเขตพื้นที่บ้านบ้วทอง และต้นที่ 25 ในเขตบ้านบัวทองใต้ ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณโคนเสาจนโครงเหล็กหักและคอนกรีตตอหม้อแตกได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 4 ต้น เสาไม่ได้โค่นกระแสไฟฟ้าไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบพยายามก่อวินาศกรรมระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูงเพื่อให้กระแสไฟฟ้าที่จ่ายเข้าไปในพื้นที่ อ.เบตงและบริเวณใกล้เคียงขัดข้องเป็นการสร้างสถานการณ์ ซึ่งกลุ่มคนร้ายพยายามทำลายระบบเศรษฐกิจ อ.เบตง ซึ่งอยู่ในแผนพัฒนาเป็นเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยจุดที่คนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูง บ้านบัวทอง ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา เป็นจุดที่คนร้ายเคยพยายามก่อเหตุ ลอบระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ

25 ธันวาคม 2560

ALERT Possible hijacking attempt on Thai Airways #TG342 foiled by Airport Security Forces at Karachi Airport, Pakistan



A Malaysian was arrested late Friday at Jinnah International Airport, Karachi, for trying to smuggle firearms and ammunition in his luggage, the Airport Security Force (ASF) told Arab News on Saturday.
Al Muhd Alfie Kqhyriel, 20, was arrested by the ASF as he was travelling to Kuala Lumpur via Bangkok from Karachi on Thai Airways flight #TG342.
He was handed over to intelligence agencies after a preliminary investigation, the ASF said, adding that he was taken in for questioning to ascertain if he had links with any terrorist outfit.

“The involvement of terrorist groups can’t be completely ruled out,” said an ASF spokesman. “Further investigations will disclose the motives and people connected with the Malaysian youth.”
The ASF found four pistols and four magazines in his luggage, and 70 rounds of ammunition were found concealed in the soles of his shoes.

It was the first visit to Pakistan by Kqhyriel, who arrived in Karachi a week ago, the ASF said. Officials said it is not sure that he had planned a hijacking as the firearms were going in cargo.

24 ธันวาคม 2560

bas ayam Slice membakar pelan dipanggil untuk melindungi kumpulan jenayah.

" Bashir bin Khalifa tunggul di sini."


Acara ini telah diadakan pada 17 Disember lalu , " penjenayah di bawah " perbuatan itu mencabar kerajaan menyeru semua daripada 10 lelaki berpakaian topi bulu hitam yang dipakai oleh perompak bersenjata merompak talian bas Coach Betong - Bangkok. di Lebuh Raya 410 (Yala - Betong).. daerah dan Ban Khlong Nam Khun Moo 5. Bannangsta Bannangsta e Yala penjahat pemandu mengejar dengan bagasi. Penumpang termasuk 17 wanita dan lelaki dari kereta sebelum menuang petrol dan kemudian dibakar dan dibakar harta di siang hari. Tanpa merosakkan penumpang dan pemandu dalam apa jua cara. Membawa kebimbangan kepada orang ramai. Dan juga pergi sejauh sebagai media adalah isu-isu mengapa punca ini. Tiada mudarat kepada orang cedera walaupun kuku menggaru kucing. Seperti setiap masa lalu.


Kejadian kali ini kita tahu bahawa tindakan kumpulan yang sudah pasti satu tindakan takut undang-undang. penjenayah Media Alliance dan pengambilalihan yang telah membawa kepada licin. Usaha oleh media , " Kami hanya mengetahui bahawa " pengacau yang memakai pakaian seragam tentera. perompak off Dilengkapi dengan senjata perang Bahasa Melayu Patani dan Thailand. Amalan ini tidak dimaksudkan untuk mereka yang tinggal di dalam kereta. Tetapi matlamatnya adalah untuk memusnahkan harta menyebabkan kumpulan itu dibantu keluar dari bagasi sebuah kereta penumpang.Penumpang selamat sebelum api Dan media lagi. Tempat kejadian di tengah-tengah antara pihak polis menempatkan Ban Nang Bu Bo. Dan tiga pangkalan tentera berasingan Bang Lang empangan. Jauh dari pusat pemeriksaan polis kira-kira 1 kilometer dari tempat kejadian, dan pangkalan tentera, kira-kira 1 kilometer kepada media " Media Alliance, penjenayah ". Ditanya apa? Semua cuba untuk menghubungkan di sana. Campuran ini ke dalam sedikit Sama ada akan menjadi titik tunggal. Hanya untuk masyarakat, berfikir bahawa kejadian itu berlaku sebagai tindakan pegawai kerajaan negeri. Sama ada ia adalah dari segi pakaian. Penggunaan bahasa dalam komunikasi Ia juga mempunyai bagasi murah hati sebelum membenarkan penumpang untuk turun bas. Ini adalah di mana penjenayah !! Saiz murah hati perkara ini adalah rancangan jahat yang telah disediakan terlebih dahulu kumpulan jenayah. Apabila siap, menyebabkan propaganda media membawa calon campuran di media sosial. Mempersoalkan masyarakat !! Jika tindakan itu tidak ada. Satu-satunya kakitangan yang mempunyai potensi .... penjenayah jahat selatan yang benar-benar cemerlang.


Tetapi dalam dunia realiti. Dalam dunia maya media sosial adalah berbeza sama sekali. Apabila fakta siasatan untuk mengetahui di mana kakitangan. Mendapati bahawa punca tindakan adalah dalam tong khabar angin untuk penjenayah tahap vokal Mr Bashir yang beroperasi di bawah. Kawasan daerah tanggungjawab. Dan Bannangsta. Yaha. Yala, yang menganalisis punca bas yang terbakar.Penumpang perlu diambil tanpa merosakkan Atau bantuan dengan bagasi di semua. Kumpulan-kumpulan jenayah kerana kekurangan sokongan daripada majoriti vokal. Untuk melawan sahaja dalam tidak teratur a. Lonjakan panggilan dalam organisasi itu sendiri.Digabungkan dengan ketidakpastian mengenai ideologi yang tepat.Beberapa bertahan sehingga merompak dia. undang-undang perniagaan Tetapi salah satu daripada sebab utama untuk masa kini.Pihak berkuasa telah mengukuhkan up. Manakala kumpulan jenayah di bawah kesilapan lalu mereka sendiri kehilangan jisim. Keganasan terhadap orang yang tidak bersalah. Tiada sasaran diskriminasiTerutamanya sasaran yang lemah walaupun tanpa perjuangan bersenjata. mob beralih kepada bekerjasama dengan kerajaan meningkat. Dan ini adalah mengapa!! Ramai orang tertanya-tanya mengapa mereka berubah tingkah laku penjenayah pergi .. Dan bas yang terbakar .. ayam Slice mungkin rancangan untuk melihat monyet.Panggilan untuk melindungi kumpulan jenayah, ia tidak.
-------------------------